บริษัท ชิคเก้น ออฟ เดอะ ซี อินเตอร์เนชั่นแนล (Chicken of the Sea International) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) และเป็นแบรนด์ชั้นนำทางด้านอาหารทะเลแปรรูปในสหรัฐอเมริกา ยืนยันความมั่นคงทางการเงิน หลังบริษัท บัมเบิล บี ฟู้ดส์ ผู้ผลิตทูน่ากระป๋องรายใหญ่ของสหรัฐประกาศจะยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อเข้าสู่กระบวนการล้มละลาย
นอกจากนี้ ชิคเก้น ออฟ เดอะ ซี อินเตอร์เนชั่นแนล ได้ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ในการสืบสวนของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ซึ่งทำให้บริษัทไม่ถูกดำเนินคดีและไม่มีภาระค่าปรับใด ๆ อีกทั้งบริษัทได้เจรจาประนีประนอมยอมความเพื่อระงับข้อพิพาทในทางแพ่ง โดยสามารถบรรลุข้อตกลงที่เป็นธรรมและแสดงออกถึงความรับผิดชอบกับโจทก์สำเร็จไปกว่า 90% และทางบริษัทเชื่อมั่นว่าจะสามารถเจรจาบรรลุข้อตกลงกับโจทก์ที่เหลือเพื่อระงับข้อพิพาทได้
บริษัท ชิคเก้น ออฟ เดอะ ซี อินเตอร์เนชั่นแนล ยืนยันที่จะมุ่งมั่นทุ่มเทดูแลลูกค้าและทำงานร่วมกับบริษัทคู่ค้าเพื่อให้ธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่อง บริษัทยังลงทุนพัฒนานวัตกรรมนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ออกสู่ตลาดในสหรัฐอเมริกา เช่น อินฟิวชั่นส์ และ ไวลด์ แคช ควบคู่ไปกับผลิตภัณฑ์หลักต่างๆ ทั้งปลาทูน่า ปลาแซลมอน และผลิตภัณฑ์หลักอื่นๆ ซึ่งผลิตภัณฑ์อินฟิวชั่น ปลาทูน่าในน้ำมันมะกอกผสมโหระพา
TU ยังตอกย้ำถึงความสามารถในการเติบโตในตลาดอเมริกา ดังเห็นได้จากผลประกอบการของกลุ่ม TU ในไตรมาสที่ 3 ซึ่งปริมาณการขายเติบโตขึ้น 3.8% โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดอเมริกาที่โตขึ้นอย่างมีนัย จากทั้งธุรกิจอาหารทะเลแปรรูปและอาหารทะเลแช่เย็นและแช่แข็ง ในส่วนภาพของรวมกลุ่มบริษัท อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้นอยู่ที่ 15.9% ขณะที่ธุรกิจผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงและผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่ามียอดขายเพิ่มขึ้น 6.9% ทั้งนี้ TU ยังคงให้ความสำคัญกับความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ เล็งผลถึงการเติบโตทางธุรกิจในระยะยาว
นอกจากนี้ ชิคเก้น ออฟ เดอะ ซี อินเตอร์เนชั่นแนล และ TU ยังได้ทุ่มเทเปลี่ยนแปลงวิถีการดำเนินธุรกิจให้กับอุตสาหกรรมเป็นอย่างมาก มีการฝึกอบรมในเรื่องการปฏิบัติตามข้อกำหนดอย่างเข้มงวด ตลอดถึงการปรับหลักจริยธรรมในการดำเนินธุรกิจ รวมถึงการดำเนินงานตามกลยุทธ์ความยั่งยืน SeaChange ซึ่งได้รับรางวัลระดับโลกมากมาย เพื่อนำความเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนให้กับอุตสาหกรรม