นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น (SC) คาดว่ารายได้จากแนวราบในปี 63 จะเติบโต 5-10% ตามการขยายโครงการอย่างต่อเนื่อง โดยคาดจำนวนโครงการที่จะเปิดใหม่ในปีหน้าจะมากกว่าปีนี้ ขณะที่แนวสูงจะเป็นช่วงของการโอนกรรมสิทธิ์ในหลายโครงการที่ดำเนินการก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ปัจจุบันบริษัทฯ มีพอร์ตแนวราบคิดเป็น 70% และคอนโดมิเนียมคิดเป็น 30% โดยในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ได้มีการชะลอการซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาคอนโดมิเนียมชั่วคราว เนื่องจากมีโครงการที่อยู่ระหว่างการขาย (สต็อก) เพียงพอ สำหรับปีนี้และปีหน้า ขณะที่โครงการแนวราบยังมีการเติบโตอย่างแข็งแรง โดยปัจจุบันมีจำนวน 50 โครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการอยู่ในขณะนี้ แบ่งเป็น แนวราบ 40 โครงการ และคอนโดมิเนียม 10 โครงการ
"เป็นปีที่ไม่ง่าย เป็นปีที่ออกแรงเยอะ แต่เรามี Portfolio ที่ค่อนข้างยืดหยุ่น เรามีแนวราบเป็นหลัก ซึ่งแนวราบของเราวันนี้ ลูกค้าคือหลักเป็นเรียลดีมานด์ และเรียลดีมานด์ยังคงเติบโตอยู่ และเรามีหลายโลเคชั่น ทำให้เราสามารถสับเปลี่ยนยอดขายได้ ช่วงไหนโลเคชั่นขายดีเราก็ไปโฟกัสตรงนั้น ช่วงไหนเปลี่ยนเราก็มีหลายโลเคชั่นที่ช่วยได้อยู่"นายณัฐพงศ์ กล่าว
สำหรับมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ในช่วงปลายปีของภาครัฐ เบื้องต้นมองว่าเป็นมาตรการที่ดี และน่าจะส่งผลเชิงบวกต่ออุตสาหกรรม ส่วนผลการดำเนินงานในปีนี้บริษัทฯ ยังคงเป้าหมายรายได้จะเติบโต 19,000 ล้านบาท และยอดขายจะอยู่ที่ 20,000 ล้านบาท ตามการเปิดโครงการทั้งสิ้น 55 โครงการ มูลค่ารวม 48,000 ล้านบาท และการเร่งโอนกรรมสิทธิ์
สำหรับภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีหน้า นายณัฐพงศ์ มองว่า จะเป็นช่วงที่มีซัพพลายค่อนข้างมาก ดีมานด์อ่อนแอลง จากระดับหนี้ที่สูงขึ้น แต่เรียลดีมานด์ยังมีการเติบโตได้อยู่ ขณะที่ยอมรับว่ามาตรการ LTV ก็มีผลกระทบ ทำให้ธนาคารพาณิชย์ควบคุมการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น หรือกู้ได้ยากขึ้น โดยเฉพาะในคอนโดมิเนียม แต่อย่างไรก็ตามบริษัทฯ ปรับกลยุทธ์ โดยมุ่งเน้นไปยังผู้บริโภคที่มีความต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง (เรียลดีมานด์) ทำให้มียอดขายเติบโตมากขึ้น