ผลการจัดอันดับ QS World University Rankings: Asia 2020 ยกให้ National University of Singapore เป็นมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของเอเชียเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน ส่วนมหาวิทยาลัยร่วมชาติอีกแห่งอย่าง Nanyang Technological University ได้ขยับขึ้นมาเป็นอันดับสอง เบียด University of Hong Kong ลงเป็นอันดับสาม
ส่วนไทยมีมหาวิทยาลัยติด 50 อันดับแรกของเอเชีย 2 แห่ง ได้แก่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่อันดับ 45 และมหาวิทยาลัยมหิดล ที่อันดับ 48 ตามมาด้วยมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (อันดับ 100) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (อันดับ 107) และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (อันดับ 127)
สำหรับไฮไลท์สำคัญนั้น จีนยังคงครองกระดานมหาวิทยาลัยชั้นนำ โดยมีมหาวิทยาลัยติดอันดับรวม 118 แห่ง และติด 10 อันดับแรกถึง 4 แห่ง ซึ่งนับเป็นความก้าวหน้าสำคัญ เพราะเมื่อย้อนกลับไปก่อนถึงปี 2015 จีนมีมหาวิทยาลัยติด 10 อันดับแรกของเอเชียเพียง 1 แห่ง
มหาวิทยาลัย 3 อันดับแรกของฮ่องกง ต่างมีอันดับลดลงแห่งละหนึ่งอันดับ ส่วนอีก 4 แห่งถัดมามีอันดับดีขึ้น และมีมหาวิทยาลัยหน้าใหม่ด้วย โดยศักยภาพของเขตบริหารพิเศษฮ่องกงในการจัดอันดับนี้ยังไม่ได้รับผลกระทบจากความไม่สงบทางการเมืองที่ยืดเยื้อ
อินเดียมีมหาวิทยาลัยติดอันดับ 96 แห่ง โดยติดอันดับครั้งแรก 20 แห่ง แต่ไม่มีแห่งใดติด 30 อันดับแรก โดย Indian Institute of Technology Bombay เป็นมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของอินเดีย อยู่ที่อันดับ 34 ของเอเชีย
ญี่ปุ่นค่อนข้างนิ่งในปีนี้ แม้มีมหาวิทยาลัยติด 30 อันดับแรกถึง 8 แห่ง และติดอันดับรวมถึง 87 แห่ง โดยมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่มีอันดับลดลง ขณะที่การถดถอยของตัวชี้วัดด้านการวิจัยนั้นเป็นสาเหตุที่ทำให้ญี่ปุ่นค่อนข้างซบเซา
เกาหลีใต้มีมหาวิทยาลัยติดอันดับรวม 71 แห่ง โดยปรากฏให้เห็นรูปแบบการปรับตัวลดลงเล็กน้อย ขณะที่ Seoul National University หลุด 10 อันดับแรก อย่างไรก็ดี เกาหลีใต้ยังคงมีมหาวิทยาลัยติด 100 อันดับแรกถึง 7 แห่ง
มาเลเซียยังคงมีความก้าวหน้าที่น่าประทับใจ ทั้งในแง่ของชื่อเสียง เครือข่ายวิจัยนานาชาติ และความเป็นสากล โดยมีสถาบันที่ติดอันดับรวม 29 แห่ง ในจำนวนนี้มีอันดับดีขึ้น 21 แห่ง