นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) ยอมรับว่าในปีนี้รายได้จะอยู่ที่ 130,000 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าที่วางไว้ที่ 140,000 ล้านบาท โดยเป็นผลจากราคาน้ำมันที่ปรับลดลงค่อนข้างมากในปีนี้ แต่อย่างไรก็ตาม ปริมาณการจำหน่ายน้ำมันปีนี้จะเติบโต 16-20% จากปี 61 ที่มียอดปริมาณการจำหน่ายน้ำมันอยู่ที่ 3,921 ล้านลิตร ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ เนื่องจากแบรนด์ของบริษัทมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการสูงขึ้น ประกอบกับฐานลูกค้าใหม่ที่ขยายตัวมากขึ้น โดยปีนี้พบว่ายอดขายสาขาเดิมเติบโต 6%
ในส่วนของกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อม (EBITDA) คาดว่าจะเติบโต 40-50% จากปี 61 เนื่องจากค่าการตลาดอยู่ในระดับที่เหมาะสม และความผันผวนต่ำที่ราว 1.70-1.80 บาท/ลิตร ส่งผลให้บริษัทสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าปีก่อน และบริษัทยังได้ผลบวกจากนโยบายภาครัฐที่จะบังคับใช้ในช่วงต้นปีหน้า ในการเพิ่มสัดส่วนการผสมน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ในน้ำมันดีเซล 10% หรือ B10 จากเดิม B7 ทำให้ความต้องการน้ำมันไบโอดีเซลขยายตัวด้วย
สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 63 นายพิทักษ์ กล่าวว่า บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดปริมาณจำหน่ายน้ำมันเติบโต 20% จากปีนี้ โดยบริษัทจะมีการขยายสถานีบริการรวม 200 สาขา แบ่งเป็น สถานีบริการน้ำมัน 150 สาขา และ LPG 50 สาขา ซึ่งจะทำให้สาขาเพิ่มเป็น 2,200 สาขา ณ สิ้นปี 63 จากสิ้นปีนี้อยู่ที่ 2,000 แห่ง โดยบริษัทจะเน้นการขยายสาขาในทำเลที่สามารถรองรับการให้บริการ non-oil อื่นๆ ให้แก่ลูกค้า เพื่อสนับสนุนการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในอนาคต
โดยบริษัทฯ ตั้งงบลงทุนในปี 63 ไว้ที่ราว 4,500-5,000 ล้านบาท โดยจะใช้เพื่อลงทุนขยายสถานีบริการน้ำมัน 3,500 ล้านบาท และเป็นลงทุนในส่วนของธุรกิจ Non-oil 500 ล้านบาท ส่วนที่เหลือสำหรับลงทุนในกิจการใหม่ๆ ซึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยได้ในปัจจุบันส่วนความคืบหน้า การดำเนินธุรกิจแก๊ส LPG ประเภทครัวเรือน ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการทดลองตลาด ซึ่งจะเริ่มเห็นความชัดเจนในช่วงต้นปี 63