ดัชนีสเตรทส์ไทม์ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดปรับตัวลดลงในวันนี้ (29 ก.พ.) หลังถูกแรงเทขายทำกำไร เช่นเดียวกับตลาดหุ้นอื่นๆในภูมิภาค รวมถึงตลาดหุ้นวอลล์สตรีทที่ร่วงลงเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนยังวิตกเกี่ยวกับสภาพเศรษฐกิจและระบบการเงินของสหรัฐ
สำนักข่าวธอมสันไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนีสเตรทส์ไทม์ปรับลดลง 47.70 จุด หรือ 1.6% ปิดที่ 3,026.45 จุด หลังเคลื่อนไหวในกรอบ 3,003.07 จุด และ 3,070.96 จุด มีปริมาณการซื้อขาย 1.5 พันล้านหุ้น มูลค่า 2.0 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์
ทั้งนี้ สเตรทส์ไทม์ปรับตัวลดลงรวม 22.19 จุด หรือ 0.7% ในช่วงตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ดัชนีดาวโจนส์ปรับลดลงเมื่อคืนนี้ หลังจากที่ทะยานอย่างต่อเนื่องตลอด 4 วันทำการที่ผ่านมา อันเป็นผลมาจากการที่ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกมาเตือนว่า ธนาคารขนาดเล็กในสหรัฐอาจจะไม่สามารถฟื้นตัวจากวิกฤติซับไพร์มได้
โดยนายเบน เบอร์นันเก้ แถลงต่อสภาคองเกรสว่า ธนาคารขนาดใหญ่มีแนวโน้มว่าจะฟื้นตัวจากวิกฤติซับไพร์มในเร็ววันนี้ แต่ธนาคารขนาดเล็กอาจจะไม่สามารถทำได้ โดยจนถึงตอนนี้มีธนาคารขนาดเล็กกว่า 3 แห่งที่ไม่สามารถฟื้นตัวได้
นอกจากนั้น กระทรวงแรงงานยังรายงานว่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้วจำนวนผู้ขอสวัสดิการสำหรับผู้ว่างงานเป็นครั้งแรกพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก จาก 19,000 ราย เป็น 373,000 ราย ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.ปีที่แล้ว
"ถ้อยแถลงของเบอร์นันเก้เป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลให้ตลาดหุ้นในเอเชียปรับตัวลดลง" ลอร์เรน ตัน นักยุทธศาสตร์จากสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ กล่าว "แม้ว่าจะมีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ไม่สู้ดีนัก แต่ตลาดหุ้นเอเชียก็ไปได้สวยในช่วงต้นสัปดาห์ ส่งผลให้เกิดแรงเทขายทำกำไรในวันนี้"
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--