นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) เชื่อว่า หลังจากธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ประกาศยกเลิกมาตรการกันสำรอง 30% แล้วภาพรวมของการลงทุนจะดีขึ้น โดยจะส่งผลดีต่อการลงทุนทั้งกองทุนรวม กองทุนอสังหาริมทรัพย์ และตลาดตราสารหนี้ จากที่ก่อนหน้านี้มีข้อติดขัดจากมาตรการดังกล่าวในการเข้ามาลงทุน
"การยกเลิกมาตรการ 30% ทำให้ทุกคนเห็นภาพที่ชัดเจนขึ้น จากก่อนหน้านี้ที่มีความกังวลใจ และคาดการณ์ไปต่างๆ นานาว่าจะยกเลิกเมื่อใด และทำให้มีการกะเกณฑ์ จึงทำให้การเคลื่อนไหวของหุ้นหวือหวา" นางภัทรียา ระบุ
ส่วนความกังวลถึงการเข้ามาเก็งกำไรของนักลงทุนหลังจากการยกเลิกมาตรการกันสำรอง 30% นั้น นางภัทรียา กล่าวว่า คงไม่มีผลต่อตลาดหลักทรัพย์ เพราะหากพิจารณาการซื้อขายหลักทรัพย์ในวันนี้ก็ไม่ได้มีการซื้อขายมากผิดปกติ หรือมีการซื้อขายของต่างชาติในจำนวนมาก
อย่างไรก็ดี หลังยกเลิกมาตรการกันสำรอง 30% แล้วจะมีผลกระทบในเรื่องใดอีกบ้างนั้น นางภัทรียา กล่าวว่า ต้องจับตาดูต่อไป แต่เชื่อว่าการยกเลิกมาตรการในครั้งนี้ไม่น่าจะมีความเกี่ยวข้องกับการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางกลับมาประเทศไทย
"ไม่น่าเกี่ยวข้องกับการที่อดีตนายกฯ ทักษิณ กลับมา" นางภัทรียา กล่าว
ทั้งนี้เงินบาทจะมีแนวโน้มแข็งค่าต่อเนื่องอีกหรือไม่นั้น เชื่อว่า ธปท.จะมีมาตรการในการดูแลค่าเงินบาทอยู่แล้ว รวมถึงกระทรวงการคลัง และ ธปท.คงได้ประสานงานกันเพื่อช่วยทำให้ค่าเงินบาทมีเสถียรภาพ
--อินโฟเควสท์ โดย จริญยา ดำสมาน/กษมาพร/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--