นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย (TMB) เปิดเผยว่า การประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 2/2562 วันนี้อนุมัติการเข้าซื้อหุ้นเพื่อรับโอนกิจการของธนาคารธนชาต (TBANK) โดยตามแผนการควบรวมกิจการระหว่าง TMB และ TBANK เบื้องต้นธนาคารจะเข้าซื้อหุ้น TBANK ซึ่งจะดำเนินการชำระค่าหุ้น พร้อมรับโอนกิจการ TBANK ในวันที่ 3 ธ.ค.62 และภายในวันเดียวกันนี้บมจ.ทุนธนชาต (TCAP) ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้น TBANK ก็จะใส่เงินเพิ่มทุนเข้ามาในธนาคาร ขณะที่ TBANK จะกลายเป็นบริษัทย่อยของธนาคาร และสามารถรวมงบการเงินของ TBANK เข้ามาเป็นงบการเงินรวมของธนาคารได้ทันทีในปีนี้
ส่วนกระบวนการควบรวมระหว่าง TBANK และธนาคาร คาดว่าจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ภายใน 24 เดือน เพื่อให้กลายเป็นธนาคารเดียวได้ในช่วงกลางปี 64 อย่างไรก็ตามเบื้องต้นคาดว่าจะสรุปชื่อของธนาคารใหม่ที่เกิดจากการควบรวมได้ในช่วงต้นปี 63
สำหรับเงินที่จะใช้ชำระค่าซื้อหุ้น TBANK ส่วนหนึ่งจะมาจากการใช้สิทธิตามใบแสดงสิทธิในการซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่โอนสิทธิได้ (TSR) ซึ่งเปิดให้ใช้สิทธิ TSR ตั้งแต่วันที่ 8-22 พ.ย.62 สามารถระดมทุนได้ 38,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 90% ของมูลค่าหุ้น TSR ที่ออกจำหน่าย (รวมกระทรวงการคลังที่ใช้สิทธิแล้ว) ซึ่งถือว่าเกินความคาดหมาย แม้ว่าการระดมทุนครั้งนี้จะต่ำกว่าเป้าหมาย แต่ก็นับว่าเพียงพอที่จะใช้ซื้อหุ้น TBANK เพราะได้มีการออกตราสารหนี้เพิ่มเติมเพื่อรองรับไว้แล้ว
ส่วนราคาซื้อหุ้นเพิ่มทุนของกลุ่มนักลงทุนรายใหม่ ซึ่งรวมถึง TCAP และ Scotia Netherlands Holding B.V. (BNS) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นเดิมของ TBANK คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 2.1 บาท/หุ้น ซึ่งเป็นกรอบประมาณการเดิม เพื่อระดมทุนในส่วนนี้จำนวน 64,000 ล้านบาท รองรับการเข้าซื้อหุ้น TBANK
อนึ่ง TMB มีแผนควบรวมกับ TBANK ซึ่งเป็นธนาคารในกลุ่ม TCAP โดย TMB เตรียมระดมทุนใหม่ 130,000 ล้านบาท ด้วยการเพิ่มทุนราว 100,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลือออกตราสารหนี้เพื่อเพิ่มเงินกองทุนชั้นที่ 1 และ 2 ขณะที่ TMB จะออกหุ้นเพิ่มทุน (Equity Fund Raising) ซึ่งส่วนแรกนั้น จะเป็นการออกและเสนอขายหุ้นสามัญให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของธนาคาร ตามสิทธิ TSR เพื่อระดมทุน 42,500 ล้านบาท และส่วนที่สอง จะเป็นการออกและเสนอขายหุ้นสามัญให้แก่ บุคคลภายนอก และผู้ถือหุ้นเดิมของ TBANK ทุกราย ซึ่งคาดว่าจะสามารถเพิ่มทุนจากสองกลุ่มหลัง เป็นจำนวน 6,400 ล้านบาท และ 57,600 ล้านบาท ตามลำดับ
นอกจากการจัดหาเงินทุนโดยการออกหุ้นเพิ่มทุนแล้ว TMB จะมีการออกตราสารหนี้ (Debt Financing) โดยการออกและเสนอขายตราสารทางการเงินที่นับเป็นกองทุนชั้นที่ 1 ให้แก่ผู้ลงทุนสถาบันต่างประเทศ เป็นจำนวน 9,600-16,000 ล้านบาท และเสนอขายตราสารด้อยสิทธิที่สามารถนับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน (Institutional Investor) และ ผู้ลงทุนรายใหญ่ (High Net Worth) จำนวน 15,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ธนาคารมีแหล่งเงินทุนเพิ่มเติมจากตราสารหนี้อีกเป็นจำนวนไม่เกิน 20,000 ล้านบาท ในกรณีที่ต้องการเงินทุนเพิ่ม