นายเอกชัย ชัยตระกูลทอง กรรมการผู้จัดการ บมจ.เอสทีซี คอนกรีตโปรดัคท์ (STC) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 63 เติบโต 5-7% โดยมีปัจจัยหนุนจากการผลักดันโครงการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐที่ทำให้มีงานก่อสร้างออกมามากขึ้น รวมไปถึงการเดินหน้าผลักดันการลงทุนในเขตพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ที่ทำให้ความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทเพิ่มขึ้น เห็นได้จากการที่ลูกค้าต่างสั่งออเดอร์ล่วงหน้าเข้ามาเป็นจำนวนมากในช่วงที่ผ่านมา และจะทยอยรับรู้มาเป็นรายได้ในปีหน้า
ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/62 คาดว่ารายได้และกำไรจะเติบโตจากช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องจากเป็นช่วงที่มีคำสั่งซื้อค่อนข้างสูง เพราะเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ และจะมีการเร่งส่งมอบงานมากขึ้นในไตรมาสสุดท้ายของทุกปี ซึ่งเป็นผลจากการที่บริษัทขยายกำลังการผลิตโรงงานนาวังเฟส 2 ที่เริ่มผลิตเชิงพาณิชย์มาตั้งแต่ไตรมาส 4/61 ทำให้ปีนี้สามารถรับงานได้เพิ่มขึ้น
นางสุนิต วิสุทธิโกศล กรรมการผู้จัดการอาวุโส สายวาณิชธนกิจ-ด้านตลาดทุน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายของ STC เปิดเผยว่า ราคาเปิดวันแรกของ STC ต่ำกว่าราคาเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ที่ 1 บาท โดยในช่วงเปิดการซื้อขายลดลงมาที่ 0.96 บาท หรือลดลง 0.04 บาท มองว่าเป็นไปตามภาวะตลาดที่ผันผวน และถูกกดันจากปัจจัยภายนอก ส่งผลทำให้ราคาหุ้นของ STC ได้รับผลกระทบไปด้วย
ทั้งนี้ อยากให้นักลงทุนมองในระยะยาวว่าบริษัทจะมีการเติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องไปกับนโยบายลงทุนของภาครัฐและการลงทุนใน EEC ซึ่งถือว่าเป็นปัจจัยหนุนที่สำคัญให้กับการเติบโตของบริษัท และมองว่า STC เป็นอีกหนึ่งหุ้นที่เป็น Growth Stock และมีความน่าสนใจ
ด้านนายเอกชัย กล่าวว่า การระดมทุนจากการเสนอขายหุ้น IPO ในครั้งนี้ บริษัทได้เงินเข้ามาราว 141.30 ล้านบาท ซ฿่งจะนำไปใช้ชำระคืนเงินกู้จากสถาบันการเงิน และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินการของบริษัทเพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรม