ตลท.ปรับเกณฑ์ขอพ้นเหตุเพิกถอน ต้องมั่นใจฐานะการเงินมั่นคงก่อนไปซื้อขาย

          นายสุทธิชัย จิตรวาณิช รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อวันที่ 27 ก.พ. 2551 มีมติอนุมัติปรับแนวทางการขอพ้นเหตุเพิกถอนกรณีบริษัทจดทะเบียนมีฐานะการเงินและผลการดำเนินงานเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน  เพื่อให้มั่นใจได้ว่าบริษัทจดทะเบียน ที่ยื่นขอพ้นเหตุเพิกถอนและขอย้ายกลับไปซื้อขายในหมวดปกติ มีฐานะการเงินและผลการดำเนินงานที่มั่นคงตามสภาพธุรกิจของบริษัทไปอย่างต่อเนื่อง และเพื่อเป็นการคุ้มครองผู้ลงทุน จึงเห็นควรให้ปรับหลักเกณฑ์ใหม่
          กรณีเป็นการขอพ้นเหตุเพิกถอนกรณีทั่วไป  ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะพิจารณาคุณสมบัติของบริษัทจากงบการเงินรายปี หรืองบการเงิน 4 ไตรมาส ที่ผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชี  โดยบริษัทต้องมีกำไรสุทธิและส่วนของผู้ถือหุ้นเฉพาะปีสุดท้ายตามหลักเกณฑ์การรับหลักทรัพย์ใหม่ โดยจะพิจารณาว่าหลักทรัพย์ของบริษัทจะซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ หรือตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ จากส่วนของผู้ถือหุ้นและกำไรสุทธิของบริษัท 
          ทั้งนี้ บริษัทจะต้องออกจากศาลฟื้นฟูกิจการก่อนพ้นเหตุเพิกถอน รวมทั้ง ต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนตามเกณฑ์การดำรงสถานะ ยกเว้นเรื่อง Free Float นอกจากนี้ ยังได้มีการปรับปรุงหลักเกณฑ์ Silent Period ของบริษัทที่จะขอพ้นเหตุเพิกถอนให้สอดคล้องกับเกณฑ์การรับหลักทรัพย์ใหม่
          "เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคกับบริษัทจดทะเบียนที่ฟื้นฟูกิจการโดยมีผู้ร่วมทุนใหม่ในลักษณะที่เป็นการจดทะเบียนทางอ้อม คณะกรรมการฯ เห็นควรเพิ่มทางเลือกในการขอพ้นเหตุเพิกถอนว่า หากบริษัทจดทะเบียนฟื้นฟูกิจการโดยหาผู้ร่วมทุนใหม่ และผู้ร่วมทุนใหม่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามเกณฑ์การรับหลักทรัพย์ บริษัทจดทะเบียนจะสามารถขอพ้นเหตุเพิกถอนและกลับมาซื้อขายได้ทันที" นายสุทธิชัย กล่าว
          อย่างไรก็ตาม หากผู้ร่วมทุนใหม่ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขข้างต้น บริษัทต้องปฏิบัติตามเกณฑ์การห้ามขายหลักทรัพย์ในช่วงเวลา Silent Period เพิ่มจากเดิมอีก 1 ปี เป็น 2 ปี