นายวัชชระ ชินเศรษฐวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.ยูไนเต็ด เปเปอร์ (UTP) กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ายอดขายกระดาษคราฟท์ในปี 63 ไว้ที่ 3,480 ล้านบาท หรือคิดเป็น 240,000 ตัน เพิ่มขึ้นจากปีนี้ที่คาดมีปริมาณขายกระดาษคราฟท์ อยู่ที่ 220,000 ตัน จากการเดินเครื่องกำลังการผลิตอย่างเต็มที่ หลังได้ปรับปรุงสิทธิภาพเครื่องจักร ปัจจุบันมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 260,000 ตัน/ปี โดยจะขายในประเทศเป็นหลัก ส่วนที่เหลือจะส่งออกไปต่างประเทศ ซึ่งบริษัทตั้งเป้าดันยอดส่งออกเพิ่มขึ้นเป็น 20% ในอนาคต จากปัจจุบันอยู่ที่ 10%
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันการขายในประเทศจะขายให้กับบริษัทในเครือ 44%, บริษัทนอกเครือ 45% ส่วนที่เหลือเป็นการส่งออกไปในประเทศเวียดนาม เมียนมา และประเทศอื่น ๆ โดยในปีหน้าบริษัทมองการขยายการขายเข้าไปในประเทศจีน เนื่องจากปัจจุบันจีนไม่สามารถนำเข้าเศษกระดาษเข้าไปใช้ได้เพียงพอ และโรงงานกระดาษในจีนมีปัญหาจากมีวัตถุดิบไม่พอใช้ ทำให้มองว่าปีหน้ากระดาษม้วน น่าจะไม่พอใช้ และคาดจะมีการนำเข้าในปริมาณที่สูง ซึ่งบริษัทคาดหวังเข้าไปมีส่วนแบ่งตลาดในจีน
ด้านราคาขายกระดาษในปีหน้า คาดว่าจะปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง แต่อาจจะไม่รุนแรงเท่ากับปีนี้ โดยไตรมาส 3/62 มีราคาเฉลี่ยของการขายอยู่ที่ 15,492 บาท/ตัน หรือประมาณ 15 บาท/กิโลกรัม ขณะที่ราคาวัตถุดิบก็น่าจะไม่ผันผวนมากนัก จากเชื่อว่าน่าจะถึงจุดต่ำสุดแล้วสำหรับราคาเศษกระดาษ ซึ่งราคาปัจจุบันอยู่ที่ 2.60 บาท/กิโลกรัม
นอกจากนี้ในปีหน้าบริษัทมีแผนจะลงทุนขยายกำลังการผลิต ส่วนเตรียมเยื่อที่ใช้ป้อนกระดาษ อีก 500 ตัน/วัน จากเดิมอยู่ที่ 500 ตัน/วัน เพื่อรองรับการทำกระดาษผิวกล่องให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนราว 200 ล้านบาท และจะเร่งดำเนินการให้เสร็จภายในไตรมาส 4/63 รวมถึงอยู่ระหว่างศึกษาเพิ่ม Boiler อีก 1 ตัว จากปัจจุบัน Boiler จำนวน 2 ตัว มีอายุการใช้งานมา 15 ปีแล้ว คาดว่าจะสรุปการลงทุนได้ในปีหน้า และหากได้ข้อสรุปน่าจะใช้เวลาในการก่อสร้างราว 1 ปีครึ่ง