นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสจะย่อตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างติดลบกัน เช่นเดียวกับดัชนีดาวโจนส์ที่ปรับตัวลง 1% หลังจากที่การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ยังมีปัญหาอยู่ค่อนข้างมาก และยังไม่เห็นโอกาสในการลงนามข้อตกลงการค้าร่วมกันได้ในช่วงสั้น
นอกจากนี้ แรงขับเคลื่อนจากปัจจัยในประเทศก็ยังไม่มีปัจจัยบวกเข้ามา ทำให้ตลาดฯมีโอกาสที่จะย่อตัวลงต่อ พร้อมให้แนวรับ 1,560 จุด ส่วนแนวต้าน 1,575 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (3 ธ.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,502.81 จุด ร่วงลง 280.23 จุด (-1.01%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,093.20 จุด ลดลง 20.67 จุด (-0.66%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,520.64 จุด ลดลง 47.34 จุด (-0.55%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 193.07 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 7.79 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 319.91 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 19.76 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 13.23 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 20.28 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 8.28 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ลดลง 6.65 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (3 ธ.ค.62) 1,567.63 จุด ลดลง 1.90 จุด (-0.12%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,524.73 ล้านบาท เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.62
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ม.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (3 ธ.ค.62) ปิดที่ 56.10 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 14 เซนต์ หรือ 0.3%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (3 ธ.ค.) อยู่ที่ -0.09 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 30.29 อ่อนค่าตามภูมิภาค นลท.เทขายสกุลเงินในตลาดเกิดใหม่ คาดกรอบวันนี้ 30.25-30.35
- ครม.ไฟเขียวกองภาษีใหม่ "เอสเอสเอฟ" แทน "แอลทีเอฟ" ให้สิทธิลดหย่อนภาษี 30% ไม่เกิน 2 แสนบาท เคาะเงื่อนไขถือยาว 10 ปี เริ่มก.พ.ปีหน้า คาดเม็ดเงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นล้าน พร้อมปรับเงื่อนไข "อาร์เอ็มเอฟ" ลดหย่อนเพิ่มเป็น 30% ด้านสำนักงบฯประเมิน รัฐสูญรายได้ปีละ 1,4 หมื่นล้าน แต่เอื้อประชาชนออมเงินเพิ่ม
- ส.อ.ท.เตรียมถกร่วมแบงก์ชาติและธนาคารพาณิชย์อีกระลอกวันนี้ (4 ธ.ค.) เพื่อร่วมหาแนวทางและมาตรการดูแลผู้ส่งออกรับมือค่าเงินบาทหลังเริ่มกลับมาแข็งค่าต่อเนื่องจนส่งผลกระทบต่อขีดความสามารถในการส่งออกของไทยในระยะสั้นและระยะยาว หวั่นกดดันส่งออกลากยาวถึงปี 63 หวังมาตรการดูแลต้องเข้มข้นขึ้น ด้าน สรท.จี้ ธปท.เข้มดูแลค่าบาท พร้อมปรับคาดการณ์ส่งออกปีนี้หดตัว 2.5-3% บนสมมติฐานว่าค่าเงินบาทอยู่ที่ระดับ 33 บาท บวกลบ 0.5 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
- สภาธุรกิจตลาดทุนไทยกางปัจจัยลบมากกว่าปัจจัยบวก กระทบความเชื่อมั่นและดัชนีหุ้นไทยส่งท้ายปี'62 เข้าภาวะทรง-ทรุด คาดดัชนีสูงได้ไม่เกิน 1,641 จุด แนะรัฐเร่งมือฟื้นความเชื่อมั่น พยุงบาท ดันเงินไหลออก
- 3 ค่ายมือถือ พร้อมโดดชิงคลื่น 2600 MHz ส่วนคลื่น 3500 MHz ไม่ชัดไม่ประมูล "ฐากร"ยันไม่เลื่อนประมูล 16 ก.พ.ปีหน้า
- กรุงศรีอยุธยา คาดปีหน้า 2563 จีดีพีไทยยังซึมโตแค่ 2.5% ส่วนปีนี้ เหลือแค่ 2.4% ระบุปัจจัยภายนอกรุมเร้า ด้านสภาอุตสาหกรรมจ่อถกร่วม ธปท.และแบงก์พาณิชย์อีกรอบ 4 ธ.ค.นี้ หาแนวทางดูแลผู้ส่งออกรับมือค่าเงินบาทหลังเริ่มกลับมาแข็งค่าต่อเนื่อง หวั่นกดดันผู้ประกอบการยาวถึงปี 63
*หุ้นเด่นวันนี้
- ADVANC (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 260 บาท ราคาหุ้น 1 เดือนหลังประกาศงบ Q3/62 ปรับลงแรง 13% จากความกังวลการแข่งขันและวงจรลงทุนที่กลับมาใหม่ ทำให้ PE ปีหน้าลดลงเหลือ 18 เท่าจากค่าเฉลี่ย 3 ปีที่ 22 เท่า และ Dividend yield เพิ่มเป็น 4% ต่อปี และ upside เพิ่มเป็นกว่า 20% เมื่อเทียบกับราคาเหมาะสม ด้านการแข่งขันในตลาดเพิ่มขึ้นบ้างแต่ไม่รุนแรงเท่าปีก่อน ส่วนประมูล 5G เชื่อว่าแข่งไม่รุนแรงเพราะมีหลายคลื่นและราคาต่ำกว่า 4G ยังคงคาดกำไรปีนี้ +7% Y-Y เป็น 3.18 หมื่นลบ. ปีหน้าโตเร่งตัวขึ้น +10% Y-Y เป็น 3.5 หมื่นลบ. โตโดดเด่นสุดในกลุ่ม
- MTC (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า IAA Consensus 66.9 บาท กลุ่มไฟแนนซ์ได้ประโยชน์จาก Trend ดอกเบี้ยขาลง ช่วยลดต้นทุนเงินทุน โดยปีหน้า MTC มีหนี้และหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดและสามารถ Refinance ได้มากที่สุดของกลุ่มที่ประมาณ 8,700 ล้านบาท