นายสุรินทร์ ประสิทธิ์หิรัญ กรรมการผู้จัดการ บมจ.โรงพยาบาลราชธานี (RJH) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ปี 63 เติบโต 10-15% โดยที่มีปัจจัยหนุนมาจากโควตากลุ่มลูกค้าประกันสังคมที่เพิ่มขึ้น โดยจะมีโควตากลุ่มลูกค้าประกันสังคมในโรงพยาบาลโรจนะเพิ่มขึ้นอีก 10,000-15,000 ราย จากปัจจุบันที่โรงพยาบาลโรจนะมีโควตากลุ่มลูกค้าประกันสังคมอยู่ที่ 30,000 ราย อีกทั้งยังจะมีปัจจัยหนุนจากการเพิ่มค่ารักษาพยายาลต่อหัวของกลุ่มลูกค้าประกันสังคม ซึ่งยังคงต้องรอการประกาศของสำนักงานประกันสังคมในการพิจารณาอัตราค่ารักษาพยาบาลใหม่ที่จะเพิ่มขึ้นในวันที่ 11 ธ.ค.นี้ โดยที่การปรับค่ารักษาพยาบาลเพิ่มขึ้นจะเป็นปัจจัยหนุนรายได้ให้กับโรงพยาบาล โดยเฉพาะโรงพยาบาลราชธานี 1 ที่มีกลุ่มลูกค้าประกันสังคมเต็มโควตาจำนวน 160,000 ราย
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังคงรักษาสัดส่วนระหว่างกลุ่มลูกค้าเงินสดและกลุ่มลูกค้าประกันสังคมให้ใกล้เคียงกันในระดับ 60:40 และในบางช่วงอาจจะมีระดับอยู่ที่ 50:50 ซึ่งการที่บริษัทยังคงรักษาระดับกลุ่มลูกค้าประกันสังคมให้ใกล้เคียงกลุ่มลูกค้าเงินสดนั้น เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงผลกระทบของรายได้ เพราะในภาวะที่เศรษฐกิจชะลอตัวอาจจะทำให้กลุ่มลูกค้าเงินสดชะลอไป จากปัจจุบันที่เริ่มเห็นโรงพยาบาลที่เน้นกลุ่มลูกค้าเงินสดมากได้รับผลกระทบ ซึ่งการกระจายไปที่กลุ่มลูกค้าประกันสังคมทำให้โรงพยาบาลมีรายได้ที่อุดหนุนจากภาครัฐเข้ามาเสริม และโรงพยาบาลราชธานียังมีสัดส่วนโควตาลูกค้าประกันสังคมที่ใช้บริการมากที่สุดในพื้นที่อยุธยา จำนวนเกือบ 200,000 ราย จากผู้ประกันตนในอยุธยารวมทั้งสิ้น 350,000 ราย
ด้านการลงทุนในปี 63 บริษัทฯ ตั้งงบลงทุนรวมไว้ที่ 850 ล้านบาท แบ่งเป็น เงินลงทุนจำนวน 450 ล้านบาท ไว้ใช้ซื้อที่ดินและก่อสร้างโรงพยาบาลราชธานี หนองแค จังหวัดสระบุรี จำนวน 120 เตียง ซึ่งจะใช้เงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินในการรองรับการก่อสร้าง และลงทุนก่อสร้างโรงพยาบาลราชธานี 2 เงินลงทุน 400 ล้านบาท จำนวน 120 เตียง ซึ่งในส่วนนี้จะใช้เงินที่เหลือจากการเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไป (IPO) จำนวน 400-500 ล้านบาท
แต่การก่อสร้างของทั้ง 2 โรงพยาบาลใหม่จะมีความล่าช้าไปจากกำหนดเดิมต้นปี 63 มาเป็นกลางปี 63 เนื่องจากรอการขออนุญาตรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ค่อนข้างนาน ทำให้แผนการก่อสร้างเลื่อนออกไป และคาดว่าทั้ง 2 โรงพยาบาลจะเปิดให้บริการในต้นปี 65
นอกจากนี้ จะมีการรีโนเวทโรงพยาบาลราชธานีเพิ่มเติมในบางโซน เพื่อเพิ่มพื้นที่การให้บริการ โดยจะใช้เงินรีโนเวทราว 10 ล้านบาท ซึ่งจะมีการขยายศูนย์อุบัติเหตุ และจะเร่งการเปิดให้บริการได้ภายในต้นปี 63 และเพิ่มศูนย์มะเร็ง ที่อยู่ระหว่างจัดซื้อเครื่องบำบัดมะเร็งเข้ามาเพิ่มเติม ซึ่งจะเริ่มเปิดให้บริการได้ในช่วงต้นปี 63 เช่นเดียวกัน ขณะที่ผลกระทบของการควบคุมราคายานั้นทางโรงพยาบาลไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากราคายาของโรงพยาบาลในปัจจุบันถือว่าถูกและอยู่ในโซนสีเขียว
นายสุรินทร์ กล่าวถึงแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/62 มั่นใจภาพรวมของผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้จะสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน หลังจากที่ในเดือนต.ค.-พ.ย.ที่ผ่านมา จำนวนคนไข้เข้ามาใช้บริการมากขึ้นกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีที่จะหนุนต่อผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/62 และมั่นใจว่ารายได้ในปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้เติบโต 10-15%