นายสมัย ลี้สกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น (TRC) เปิดเผยว่า ในปี 51 บริษัทฯ ได้ประเมินในเบื้องต้นว่าจะมีรายได้ที่ระดับ 2,008 ล้านบาท เติบโต 28% จากปี 50 ที่ทำรายได้ 1,607.06 ล้านบาท โดย รายได้ในปีนี้จะมาจากโครงการในมือที่ยกมาจากปีก่อน 1,230 ล้านบาท ที่เหลือจะมาจากโครงการใหม่ และจากโครงการที่อยู่ในระหว่างการพัฒนาของส่วนงาน Project Development and Investment
สำหรับอัตรากำไรขั้นต้นในปีนี้คาดว่าจะสูงกว่าอัตรามาตรฐานของบริษัทฯ เนื่องจากหน่วยธุรกิจใหม่จะก่อให้เกิดอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงถึง 30-40% รวมทั้งคาดว่าโครงการจะสำเร็จในปีนี้ คือ โครงการราชเพลิน ที่บริษัทฯ ได้ร่วมลงทุนกับกลุ่มซีแลน และมณียา จึงเชื่อมั่นว่าผลประกอบการของบริษัทจะขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปี 50 อย่างแน่นอน
ในปีนี้บริษัทฯ จะเริ่มรับรู้รายได้จากหน่วยธุรกิจใหม่ที่เกิดขึ้นจากการควบรวมกิจการกับ บริษัท สหการ วิศวกร จำกัด คือ หน่วยงาน Project Development and Investment ซึ่งโครงการที่อยู่ในระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ขณะนี้เป็นรูปธรรมเด่นชัดขึ้นทั้งการพัฒนาโครงการด้านพลังงาน เช่น โครงการเขื่อนพลังงานไฟฟ้าสตึงนำ ที่ประเทศกัมพูชา, ไฟฟ้า เช่น โครงการโรงไฟฟ้าขนาดเล็กที่ลาดกระบัง และอสังหาริมทรัพย์ เช่น โครงการรอยัลราชดำริ
"เป็นโครงการที่จะก่อให้เกิดรายได้ที่ต่อเนื่อง และยั่งยืน ให้กับ TRC ในระยะยาว และประการสำคัญธุรกิจดังกล่าวมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ร้อยละ 30- 40 ของรายได้จากธุรกิจปกติที่มีอัตรากำไรขั้นต้นประมาณร้อยละ 15" นายสมัย กล่าว
นอกจากนี้ TRC ยังมีนโยบายที่จะขยายงานออกสู่ต่างประเทศ ภายใต้ความร่วมมือกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ โดยเป็นงานในด้าน Pipeline, Fabrication และ Water Desalination ภายใต้ความร่วมมือกับ China National Petroleum Corporation หรือ CNPC ซึ่งเป็นผู้นำด้านพลังงานรายใหญ่ที่สุดของประเทศจีน และงาน Turnkey Desalination ภายใต้ความร่วมมือกับบริษัท ไฮโดรเท็ค จำกัด ซึ่งจะทำให้การสร้างรายได้กว้างขวางขึ้น
นายสมัย ยังเชื่อว่าหลังจากการเมืองมีความชัดเจนขึ้นเป็นลำดับจะทำให้มีงานจากภาครัฐเปิดประมูลมากขึ้น ซึ่งจะเป็นผลดีต่อ TRC เช่นเดียวกัน เนื่องจากมีความเป็นไปได้ที่จะทำให้ บริษัท สหการวิศวกร จำกัด มีโอกาสได้งานจากภาครัฐเพิ่มขึ้นจากประมาณการเดิมที่วางไว้ในเบื้องต้นว่าจะได้รับงานเพิ่มเติมจากโครงการภาครัฐในปีนี้ ประมาณ 350 ล้านบาท
และในปีนี้จะเห็น TRC มีการเติบโตอย่างมากจากการผนึกกำลังร่วมกับ บริษัท สหการวิศวกร จำกัด ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านงาน Civil เพราะธุรกิจหลักของเรามีแนวโน้มเติบโตดีอยู่แล้ว และเมื่อการเมืองเริ่มมีความชัดเจน และการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ลงตัว โครงการสาธารณูปโภคที่หยุดหรือชะลอการเปิดประมูลไปนานน่าจะเริ่มเปิดประมูลมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อธุรกิจของสหการวิศวกร เนื่องจาก สหการวิศวกรรับงานในภาครัฐเป็นหลัก
อย่างไรก็ตาม หากโครงการรับเหมาก่อสร้างปกติ เปิดให้เข้าประมูลน้อยลงจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจในประเทศ บริษัทยังเตรียมแผนรองรับโดยการขยายธุรกิจไปสู่งานที่มีอัตรากำไรเบื้องต้นมากขึ้น อาทิเช่น งาน Property / Project Development ของหน่วยธุรกิจใหม่ และในส่วนงานรับเหมาก่อสร้างที่เน้นงานด้าน Engineering Procurement Construction ของงาน Oil/Gas และ Petrochemical Industry เป็นหลัก ซึ่งจะทำให้แนวโน้มผลประกอบการยังเติบโตได้ดี
--อินโฟเควสท์ โดย สารภี สายะเวส/รัชดา/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--