บมจ.มิลล์คอนสตีลอินดัสทรีส์ (MILL)คาดกำไรสุทธิปีนี้โตเท่าตัวจากปีก่อนที่มีกำไร 105.57 ล้านบาท ตามรายได้ที่มีโอกาสแตะหมื่นล้านบาท จากเป้าเดิมตั้งรายได้ปีนี้ไว้ที่ 4 พันล้านบาท เนื่องมาจากบริษัทเข้าซื้อหุ้น บริษัท เหล็กบูรพา อุตสาหกรรม จำกัด(BRP) เพื่อเข้าถือหุ้นใหญ่ 85.1% ทำให้กำลังการผลิตรวมของบริษัทเพิ่มเป็น 9 แสนตัน/ปีจากปัจจุบันผลิตอยู่ที่ 5 แสนตัน/ปี
"ยอดขายมีโอกาสแตะที่ 1 หมื่นล้านบาทได้ กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นจากการที่เราเข้าซื้อเหล็กบูรพา และราคาเหล็กสูงขึ้น 20% ดีมานด์ในตลาดปรับตัวดีขึ้น...กำไรสุทธิก็คิดว่าน่ามีโอกาสโต double"นายสิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการผุ้จัดการ MILL กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
สำหรับอัตรากำไรสุทธิ (net profit margin) ที่คาดว่าปีนี้จะอยู่ที่ 5% หลังเข้าซื้อเหล็กบูรพาจะทำให้เป้าหมายทำได้เร็วขึ้น
ทั้งนี้ หลังการประชุมผู้ถือหุ้น MILL ในวันที่ 11 เม.ย.51 ขั้นตอนการเข้าซื้อหุ้นของเหล็กบูรพา จากบมจ.ไทย แคปปิตอล คอร์ปอเรชั่น(TCC) และกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมจะเรียบร้อยในปลายเดือน เม.ย.หลังจากนั้น บริษัทจะรับรู้รายได้จากเหล็กบูรพาได้ทันที ทำให้รายได้และกำไรในไตรมาส 2/51 เติบโตแบบก้าวกระโดด
"ใช่ผมก้าวกระโดด แต่ก้าวกระโดดในสัดส่วนที่มีพื้นฐานแข็งแรงขึ้น เพราะว่าเราก็กลายเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ของประเทศแล้ว ก็เป็นไปได้อยู่ 1 ใน 5 และแนวโน้มธุรกิจเหล็กต้องมีการควบรวม เพื่อให้เกิด econnomy of scale ไม่อย่างนั้นมันอยู่ได้ไม่ยั่งยืน"
"ถ้าเราไม่เปิดรับพันธมิตร เราอาจอยู่ลำบากในอนาคต ในฐานะผู้บริหาร ผมก็มองว่า นี่คือโอกาสล่ะ ในการที่จะหาพันธมิตร เพราะเราอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ช่องทางการหาพันธมิตร การระดมทุนง่ายกว่าคนอื่น อย่างเหล็กบูรพาเราก็ถือเป็นโอกาส" นายสิทธิชัย กล่าว นายสิทธชัย กล่าว
เหล็กบูรพามีกำลังการผลิตเหล็กเส้น 4 แสนตันต่อปี เดิมเหล็กบูรพาเดินเครื่องเพียง 10% หลังจากนี้มีแผนจะเดินเครื่อง 60% ของกำลังการผลิต ขณะที่ MILL ผลิตเหล็กเส้น และเหล็กรูปพรรณ นอกจากนี้ ลูกค้าของเหล็กบูรพาเป็นคนกละกลุ่มกับ MILL จึงเอื้อต่อกันในการขยายฐานลูกค้า โดยฐานลูกค้าสำคัญของเหล็กบูรพาเป็นกลุ่มส่งออก
นายสิทธิชัย คาดว่า MILL จะขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับ PP จำนวน 107.14 ล้านหุ้น ได้ภายในปลายเดือนเม.ย.นี้ ซึ่งจะเป็นกลุ่มนักลงทุนระยะยาว หรือพันธมิตรทางธุรกิจ โดยกำหนดราคาขายหุ้นละ 5 บาท จากพาร์ 1 บาท
"มีความเป็นไปได้ที่จะขายให้กับกลุ่มธุรกิจเหล็กต้นน้ำ แต่ตอนนี้ยังไม่นิ่ง เพียงแต่ผมต้องการใครก็ได้ที่เป็น long term partner หรือ strategic partner อาจเป็นกองทุนหรือจะเป็นบุคคลธรรมดา ก็แล้วแต่" นายสิทธิชัย กล่าว
อย่างไรก็ตาม จากการเพิ่มทุนของบริษัทในครั้งนี้จำนวน 173 ล้านหุ้น บริษัทคาดว่าจะระดมเงินได้ประมาณ 600 ล้านบาท โดยประมาณ 340 ล้านบาทใช้สำหรับซื้อเหล็กบูรพา และที่เหลือจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
"บริษัทยังคงมองหาเจรจาพันธมิตรต่อไป รวมไปถึงธุรกิจเหล็กต้นน้ำ ผมไม่ได้กลัว dilution effect แต่ในฐานะผู้บริหาร ผม concern อย่างเดียว ทำยังไงให้บริษัทแข็งแรง แล้วมีความยั่งยืนในอนาคต"นายสิทธิชัย กล่าว
ราคาหุ้น MILL วันนี้เคลื่อนไหวที่ 6.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนเปลง
--อินโฟเควสท์ โดย เสาวลักษณ์ อวยพร/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--