โบรกเกอร์ แนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.อมตะ คอร์ปอเรชัน (AMATA) จากภาพรวมผลการดำเนินงานในปี 63 ฟื้นตัวดีต่อเนื่อง โดยจะรับรู้กำไรพิเศษจากการที่ บมจ.อมตะ วีเอ็น (AMATAV) ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่ม แบ่งขายเงินลงทุน 49% ใน 2 บริษัทพัฒนาโครงการ Long Thanh ในเวียดนาม ด้วยมูลค่า 2.16 พันล้านบาทให้กับ Nova Rivergate ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ในเวียดนาม ซึ่งมีแผนการพัฒนาที่ดิน 2 แห่งนี้เป็นโครงการที่อยู่อาศัยในอนาคต ขณะที่กลุ่ม AMATA ยังคงถือหุ้นใน 2 บริษัทดังกล่าวแห่งละ 51% คงสภาพการเป็นบริษัทย่อย
ประกอบกับ ยอดขายที่ดินทั้งในประเทศไทยและเวียดนามน่าจะฟื้นตัวดีขึ้น ตามการฟื้นตัวของการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (Foreign Direct Investment: FDI) ที่ไหลเข้ามาในประเทศไทย และคำขอส่งเสริมลงทุน ซึ่งจะทำให้มีอุปสงค์ที่ดินกว่า 3,000 ไร่ โดย AMATA มีส่วนแบ่งตลาดราว 30%, การย้ายฐานการผลิตจากจีน หลังมีประเด็นสงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐ และรับรู้รายได้จากการขายที่ดินในเวียดนามเพิ่มขึ้นตามการโอนที่ดิน
ด้านราคาหุ้นที่ร่วงลงราว 18% ในสัปดาห์ที่ผ่านมาน่าจะสะท้อนปัจจัยลบไปมากแล้ว ทำให้เป็นโอกาสสะสมหุ้นที่ยังมีศักยภาพเติบโตในปีหน้า
ช่วงบ่ายราคาหุ้น AMATA อยู่ที่ 20.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท หรือ 0.49% ขณะที่ดัชนีหุ้นไทย ลดลง 0.25%
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น) เคจีไอ ซื้อ 25.50 หยวนต้า (ประเทศไทย) ซื้อ 26.00 เอเชีย เวลท์ ซื้อ 30.50 เอเซีย พลัส ซื้อ 35.70 ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ซื้อ 30.00 คิงส์ฟอร์ด ซื้อ 25.00 เคที ซีมิโก้ ซื้อ 25.80 กสิกรไทย ซื้อ 25.90
นายสรพงษ์ จักรธีรังกูร ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจของ AMATA ในปีหน้าน่าจะฟื้นตัวดีขึ้น จากยอดขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมในเวียดนามที่คาดว่าจะอยู่ที่ 150-200 ไร่ และยังมีการรับรู้กำไรพิเศษจากการที่ AMATAV ขายเงินลงทุน 49% ในโครงการทาวน์ชิพ 2 แห่งในนิคมอุตสาหกรรม AMATA CITY Long Thanh มูลค่า 2.16 พันล้านบาท ให้กับ Nova Rivergate ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ในเวียดนามที่มีแผนการพัฒนาที่ดิน 2 แห่งนี้เป็นโครงการที่อยู่อาศัย
ทั้งนี้ ประมาณการกำไรสุทธิของ AMATA ในปี 63 เติบโตมาที่ 1.88 พันล้านบาท จากปีนี้คาดทำได้ 1.71 พันล้านบาท ขณะที่ยอดขายที่ดินในปีหน้าคาดว่าจะอยู่ที่ 750 ไร่ จากปีนี้คาดทำได้ 726 ไร่ ปัจจุบัน AMATA มียอดขายที่ดินสะสมในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ 526 ไร่ โดยในไตรมาส 4/62 ต้องติดตามดูว่าจะทำได้ตามเป้าหมายหรือไม่ โดย AMATA คาดยอดขายที่ดินในปีนี้จะอยู่ที่ 700-800 ไร่ ลดลงจากเป้าหมายเดิมที่ 950 ไร่ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน, เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง และการชะลอตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ถือเป็นกลุ่มลุกค้าหลัก ทำให้มีผลต่อการตัดสินใจของอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องที่จะเข้ามาลงทุน
นายประสิทธิ์ รัตนกิจกมล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ช่วง 9 เดือนแรกปีนี้ AMATA สามารถทำกำไรสุทธิได้แล้ว 1.49 พันล้านบาท คิดเป็น 85% ของประมาณการทั้งปี 62 และแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/62 ยังเติบโตต่อเนื่อง ทำให้ยังคงประมาณการกำไรในปีนี้ในระดับเดิมที่ 1.75 พันล้านบาท เติบโต 71.7% จากปีที่แล้ว
ขณะที่ปัจจุบันมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) ที่ 2.4 พันล้านบาท ซึ่งจะช่วยผลักดันกำไรในปี 63 เติบโตอีก 11.2% จากปีนี้ รวมถึงยังมี upside จากแผนการขายเงินลงทุนในเวียดนามของกลุ่ม AMATA ซึ่งคาดว่าจะบันทึกกำไรพิเศษหลังภาษีได้ราว 400-500 ล้านบาท ซึ่งยังไม่ได้รวมในประมาณการ
ด้านราคาหุ้น AMATA ปรับลดลงมากในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ Valuation น่าสนใจ โดย PER ซื้อขายในปี 63 ลดลงเหลือเพียงราว 11.6 เท่า ทำให้ Upside เปิดกว้างจึงเป็นโอกาสซื้อลงทุนระยะยาว
ด้าน บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ยอดขายที่ดินในไตรมาส 4/62 ของ AMATA จะอยู่ที่ประมาณ 200 ไร่ จากช่วง 9 เดือนแรกปีนี้ที่ทำได้แล้ว 526 ไร่ ซึ่งจะทำให้ยอดขายที่ดินปีนี้อยู่ที่ประมาณ 700 ไร่ ต่ำกว่าเป้าของ AMATA ที่ตั้งไว้ 950 ไร่ในปีนี้ และต่ำกว่าสมมติฐานของเคจีไอฯที่มองไว้ระดับ 850 ไร่
อย่างไรก็ตาม คาดว่ายอดขายที่ดินของ AMATA น่าจะเร่งตัวขึ้นในปีหน้า จากการฟื้นตัวของ FDI ที่ไหลเข้ามาในประเทศไทย และคำขอสิทธิประโยชน์การลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ซึ่งจะทำให้มีอุปสงค์ที่ดินกว่า 3,000 ไร่ โดย AMATA มีส่วนแบ่งตลาดราว 30%, การย้ายฐานการผลิตจากประเทศจีนจากประเด็นสงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐ และยอดขายที่ดินในเวียดนามเพิ่มขึ้นจากการโอนที่ดิน ทำให้คาดว่ายอดขายที่ดินในปีหน้าจะอยู่ที่ 900 ไร่ แบ่งเป็น ในไทย 800 ไร่ และที่เวียดนาม 100 ไร่ และปี 64 เป็น 950 ไร่ แบ่งเป็น ในไทย 800 ไร่ และเวียดนาม 150 ไร่
ขณะที่คาดยอดโอนในไตรมาส 4/62 จะอยู่ที่ 100 ไร่ จาก 9 เดือนแรกปีนี้ ที่มียอดโอนอยู่ที่ 709 ไร่ ซึ่งส่วนใหญ่มาจาก backlog ทำให้คาดว่ายอดโอนที่ดินปีนี้จะอยู่ที่ราว 800 ไร่ เพิ่มขึ้นจากปี 61 ที่ 439 ไร่ถึงเท่าตัว ส่งผลให้กำไรสุทธิปี 62 โตถึง 78% จากปีก่อน ส่วนปีหน้าคาดว่ายอดโอนที่ดินน่าจะลดลง เป็นไปตาม Backlog ส่งผลให้กำไรทรงตัวในปี 63 ก่อนที่จะขยับสูงขึ้นกว่า 10% ในปี 64
อย่างไรก็ตาม แม้เคจีไอฯ จะมีการปรับประมาณการกำไรปี 62-63 ลงประมาณ 6% สะท้อน Backlog และราคาขายที่ดินที่อ่อนตัว แต่เชื่อว่าหุ้นถูกเทขายมากไป ราคาหุ้นร่วงแรงถึง 18% ในสัปดาห์ที่แล้ว จากความกังวลเรื่องยอดขายที่ดิน, กำไรน่าจะไม่โตในปีหน้า และสถานการณ์การเมือง จึงมองเป็นโอกาสให้เข้าสะสมเพราะราคาหุ้นคิดเป็น PER ที่ต่ำเพียงแค่ 11 เท่า ในขณะที่น่าจะยังมีอุปสงค์ที่ดินจากกระแส FDI และคำขอสิทธิประโยชน์บีโอไอ เนื่องจากประเทศไทยยังคงเป็นทางเลือกการลงทุนที่ดีอยู่
ขณะที่นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเชีย เวลล์ กล่าวว่า ปัจจุบัน AMATA อยู่ระหว่างการเจรจาขายที่ดินอีก 150-200 ไร่ คาดว่าน่าจะเซ็นสัญญาและรับรู้เป็นยอดขายที่ดิน (Presaels) ในไตรมาสนี้ ทำให้ในปี 62 คาดว่าจะมียอดขายที่ดินอยู่ที่ 700-750 ไร่ จากช่วง 9 เดือนที่ผ่านมามียอดแล้วที่ 526 ไร่ ขณะที่ก็จะมีการรับรู้รายได้จากการโอนที่ดินในนิคมอุตสาหกรรม Bien Hoa ราว 2-4 เฮกเตอร์ ในไตรมาส 4/62 ด้วย โดย ณ สิ้นไตรมาส 3/62 มี Backlog ทั้งสิ้น 2.42 พันล้านบาท คาดว่าจะสามารถรับรู้เป็นรายได้ในปี 63 กว่า 70%
สำหรับในปีหน้า AMATA จะมีการโอนกรรมสิทธิ์ในนิคมอุตสาหกรรมที่เวียดนาม โดยเฉพาะนิคมอุตสาหกรรม Halong ซึ่งคาดว่าจะมีการขายที่ดินจำนวน 20-30 เฮกเตอร์ ขณะเดียวกันในช่วงครึ่งหลังของปีหน้าก็จะมีการทยอยรับรู้รายได้จากการขายหุ้น 49% ของ Amata Service City Long Thanh 1&2 คิดเป็นมูลค่าราว 2.1 พันล้านบาท