บมจ. เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง (PLE) คาดรายได้-กำไรปี 51 เติบโตสอดคล้องกัน จากงานในมือ(backlog)พุ่งกว่า 5 หมื่นล้านบาททยอยรับรู้ในช่วง 2 ปี หลังการขยายงานต่างประเทศ โดยเฉพาะแถบตะวันออกกลางไปได้สวย และมีแผนบุกเข้าสู่อิหร่านและตุรกีในช่วงต่อจากนี้ สำหรับการขายหุ้นเพิ่มทุนให้ PP จะแล้วเสร็จสมบูรณ์ภายในกลางปีนี้ ซึ่งการเพิ่มทุนจะทำให้มีเงินหมุนเวียนลงทุนต่อยอดรายได้
แหล่งข่าวจากผู้บริหาร PLE เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า ในปี 51 บริษัทจะขอเติบโตแบบ Conservative ในระดับ 10-15% จากปี 50 ที่งบรวมบริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้ 8,222 ล้านบาท และกำไรก็คาดว่าจะดีกว่า 150 ล้านบาทในปี 50 หลังทั้งงานในประเทศและต่างประเทศอยู่ตัวสามารถยืนอยู่ได้ด้วยตัวเอง และบริษัทยังมีการป้องกันความเสี่ยงด้วยการทำธุรกรรมทางการเงินเอง ทำ Hedging และซื้อ Swap เพื่อป้องกันความเสี่ยง
ปัจจุบัน PLE มี Backlog ตุนไว้ในมือแล้วรวมกว่า 5 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นงานในดูไบ 3 งาน มูลค่าประมาณ 2.5 หมื่นล้านบาท ทยอยรับรู้ได้ราว 2 ปีขึ้นไปนับจากปลายปี 50, งานที่กาตาร์ 8.5 พันล้านบาท รวมกับงานในประเทศ 1.8 หมื่นล้านบาท รับรู้รายได้ประมาณ 50% ภายในปีนี้
"Backlog ที่มีจะสามารถเก็บเกี่ยวสร้างรายได้และผลกำไรได้ต่อเนื่องไปอีกหลายปี โดยจะไปรับรู้หนัก ๆ ในปี 52 ขณะที่ปี 51 รายได้ก็คงโตกระโดด แต่ขอแบบ Conservative คือ 10-15%"แหล่งข่าว กล่าว
ขณะนี้บริษัทไม่มีความจำเป็นต้องเข้าประมูลงานใหม่เพิ่มเติมจากระดับปัจจุบัน เพราะเกรงว่าจะทำงานใน backlog ไม่ทัน แต่อย่างไรก็ตาม ก็จะพยายามหา Backlog เพิ่มอย่างน้อยปีละ 1 หมื่นล้านบาทเพื่อลดความเสี่ยง โดยเฉพาะงานในต่างประเทศ
ที่กำลังจะปรับเพิ่มสัดส่วนเป็น 50:50 กับงานในประเทศ จากปัจจุบันอยู่ที่ 60:40 โดยเริ่มมองลู่ทางขยายงานไปตุรกีและอิหร่านเป็นลำดับต่อไป
ส่วนเรื่องการขายหุ้นเพิ่มทุน 180 ล้านหุ้นให้ PP แหล่งข่าว กล่าวว่า บริษัทได้พิจารณาการขายหุ้นเพิ่มทุน 180 ล้านหุ้น ให้ PP อีกครั้งหลังจากปัญหาต่างๆ เริ่มคลี่คลาย ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ โดยเฉพาะมาตรการกันสำรอง 30% ที่ถูกยกเลิกไป โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปเกี่ยวกับผู้ซื้อก่อนการประชุมผู้ถือหุ้นราวกลาง เม.ย. นี้ และคาดว่ากระบวนการเพิ่มทุนจะแล้วเสร็จประมาณกลางไตรมาส 2/51
ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าจะได้เงินจากการขายหุ้นประมาณ 1-1.5 พันล้านบาท และมีแผนจะนำไปใช้ลงทุนทำงานที่กาตาร์และดูไบเป็นหลัก และบางส่วนจะใช้ทำงานในประเทศ
"เราคงต้องเพิ่มทุนแล้ว แล้วก็มั่นใจว่าปีนี้ต้องเพิ่มทุนสำเร็จแน่นอน เพราะจะเอาเงินไปทำงานที่ตะวันออกกลาง คนซื้อมีประมาณ 2-3 กลุ่ม มีทั้งไทยและต่างประเทศ เข้ามาพร้อมๆกัน ก็ต้องมานั่งดูว่าจะจัดสรรให้กลุ่มไหนเท่าไหร่ แต่ละกลุ่มมีเงื่อนอะไรบ้าง ขอ board seat มั้ย และนี่ก็รอราคาตลาดจะ feedback หลังงบ Q4/50 ออกแล้วจะกำหนดราคาขาย ซึ่งตอนนี้ราคาหุ้น PLE อยู่ที่ 5.20 บาท/หุ้น และเรากำหนดนโยบาย PP ไว้ว่า ไม่ต่ำกว่าราคาตลาดย้อนหลังพรีเมี่ยม 15 วัน"แหล่งข่าว กล่าว
"ปีที่แล้วมีปัญหาเยอะมาก เพราะนักลงทุนติดขัดเรื่องรัฐบาลทหาร ติดขัดเรื่องแบงก์ชาติ เรื่องพ.ร.บ.นอมินี กลัวโดนคตส.ตรวจสอบหากฝากคนอื่นมาซื้อ แต่ตั้งแต่เปลี่ยนรัฐบาลเค้าก็เริ่มติดต่อมา ไม่มี 30% แล้ว ส่วน พ.ร.บ.นอมินีเราไม่รู้ แต่ก็ถือว่าถูกปลดไปทีละข้อ"แหล่งข่าว กล่าว
แหล่งข่าว ยังเปิดเผยอีกว่า บริษัท บำรุงเมืองพลาซ่า เริ่มเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น หลัง PLE เข้าเพิ่มทุนจาก 500 ล้านบาท เป็น 1 พันล้านบาทเรียบร้อย เป็นการเพิ่มทุนเพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้บำรุงเมืองพลาซ่า อย่างน้อยเมื่อเจรจากับสถาบันการเงินจะได้เห็นว่า D/E ต่ำ ทำให้ความเสี่ยงในการให้กู้เงินลดลง และเพิ่มอำนาจในการกู้เงินประมาณ 200 ล้านบาทเพื่อมาเป็นทุนในการบริหารงาน บริหารการเงินตัวเอง โดยเฉพาะจ่ายคืนเจ้าหนี้การค้าที่มีอยู่หลายรายแล้วจึงจะเริ่มบริหารโครงการจนกระทั่งเริ่มมีรายได้เข้ามา
--อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--