นางสาวสิตาพัชร์ นิโรจน์ธนรัฐ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บมจ.ลีซ อิท (LIT) ยอมรับว่ารายได้ปีนี้จะทำได้เพียงใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 445.10 ล้านบาท จากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ส่งผลให้บริษัทระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อ ประกอบกับงบประมาณปี 63 ของภาครัฐออกมาล่าช้า ทำให้การปล่อยสินเชื่อให้กับลูกค้าที่รับงานภาครัฐชะลอไปด้วย โดยในปีนี้คาดว่าจะมียอดปล่อยสินเชื่อที่ 11,000 ล้านบาท ลดลงจากเป้าที่ตั้งไว้ที่ 13,000 ล้านบาท
ส่วนแผนการดำเนินธุรกิจในช่วงที่เหลือของปีนี้ต่อเนื่องถึงปีหน้า บริษัทจะมุ่งเน้นขยายงานโครงการภาครัฐและรัฐวิสาหกิจเป็นสำคัญ มุ่งเน้นเจาะตลาดในกลุ่มลูกค้าขนาดใหญ่ เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี สร้างการเติบโตจากฐานลูกค้าเก่าและรักษาฐานลูกค้าให้มั่นคง และเดินหน้ารุกดิจิทัล มาร์เก็ตติ้ง พร้อมสร้างแบรนด์ ลีซ อิท ให้เป็นที่รู้จักและน่าเชื่อถือ
สำหรับปี 63 บริษัทคาดว่ารายได้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% หลังจะเน้นเพิ่มสัดส่วนลูกหนี้หน่วยงานราชการและหน่วยงานรัฐวิสาหกิจเพิ่มขึ้นเป็น 65-70% ของลูกหนี้ทั้งหมด จากปัจจุบันอยู่ที่ 60% เนื่องจากกลุ่มลูกหนี้ดังกล่าวจะมีความเสี่ยงต่ำกว่า โดยคาดว่างบประประมาณปี 63 ของภาครัฐจะออกมาในช่วงไตรมาส 1/63
ขณะที่ล่าสุด บริษัทได้สนับสนุนสินเชื่อนวัตกรรมที่จอดรถอัจฉริยะแห่งอนาคต มูลค่าสัญญากว่า 70.96 ล้านบาท รวมทั้งยังคงเดินหน้าให้สินเชื่อในโครงการติดตั้งเครื่องตรวจอาวุธและระเบิด-สายพานลำเลียง เพื่อยกระดับความปลอดภัยสนามบินในประเทศตามมาตรฐาน ICAO และโครงการวิทยุสื่อสารโทรคมนาคม
ด้านหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ณ สิ้นไตรมาส 3/62 อยู่ที่ 11.43% ลดลงจากไตรมาส 2/62 อยู่ที่ 12.79% โดยเป็นผลจากการติดตามทวงถามหนี้ การบริหารจัดการหนี้ และการตัดหนี้สูญ ขณะที่ทั้งปีพยายามจะควบคุมให้อยู่ในระดับ 10-11%