ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)เตรียมเผยแพร่ค่าสถิติภาพรวมตลาดใหม่ตามหลักมาตรฐานสากล เผยใช้แนวทางของสหพันธ์ตลาดหลักทรัพย์นานาชาติ (WFE) เริ่มเผยแพร่ปลาย มี.ค. 2551 นี้
นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลท. เปิดเผยว่า ตลท.จะปรับวิธีการคำนวณค่าสถิติภาพรวมตลาด โดยเทียบเคียงของสหพันธ์ตลาดหลักทรัพย์นานาชาติ(World Federation of Exchanges:WFE)มาใช้คำนวณค่าสถิติภาพรวมทั้งของตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET)และตลาดหลักทรัพย์ เอ็มเอไอ (mai) ได้แก่ อัตราส่วนราคาตลาดต่อกำไรสุทธิ (Price/Earning หรือ P/E)อัตราส่วนราคาตลาดต่อมูลค่าหุ้นทางบัญชี (Price /Book Value หรือ P/BV) และอัตราเงินปันผลตอบแทน(Dividend Yield) ซึ่งจะนำค่าสถิติที่ใช้วิธีคำนวณใหม่มาเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ www.set.or.th ควบคู่ไปกับค่าสถิติที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ตั้งแต่ปลายเดือนมี.ค.นี้เป็นต้นไป
ปัจจุบัน วิธีการคำนวณค่าสถิติหลักทรัพย์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ และตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ได้แก่ อัตราส่วนราคาตลาดต่อกำไรสุทธิ (Price/Earning หรือ P/E) อัตราส่วนราคาตลาดต่อมูลค่าหุ้นทางบัญชี (Price /Book Value หรือ P/BV) และอัตราเงินปันผลตอบแทน(Dividend Yield)มีความแตกต่างจากตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศหลายแห่ง ตัวอย่างเช่น การคำนวณค่าพีอี ซึ่งตลท.คำนวณเฉพาะหุ้นสามัญที่จดทะเบียนที่มีผลกำไรจากการดำเนินงานงวด 12 เดือนล่าสุด ทำให้ค่าพีอีของตลาดหลักทรัพย์ฯ ต่ำกว่าตลาดหลักทรัพย์อื่น โดยปัจจุบันค่าพีอี ของตลาดหลักทรัพย์ฯ อยู่ที่ประมาณ 11 -12 (ณ ก.พ. 2551)
"ค่าสถิติภาพรวมตลาดที่นำวิธีการใหม่มาคำนวณ จะสามารถสะท้อนมูลค่าภาพรวมตลาดได้ตามแนวทางเดียวกับตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศ โดยค่าพีอี ตามวิธีการคำนวณใหม่ที่นำผลการดำเนินงานของทุกหลักทรัพย์เข้าไปรวมคำนวณด้วย จะทำให้มีค่าพีอี อยู่ที่ประมาณ 15 - 17 ซึ่งใกล้เคียงกับตลาดหลักทรัพย์ใน เอเชีย ได้แก่ ญี่ปุ่น ฮ่องกง และเกาหลี เป็นต้น นับเป็นการยกระดับความน่าสนใจของตลาดหลักทรัพย์ไทยให้เทียบเคียงกับตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศ" นางภัทรียา กล่าว
นายสันติ กีระนันทน์ ผู้ช่วยผู้จัดการ ดูแลงานฝ่ายธุรกิจข้อมูล สายงานวิจัยและข้อมูลสารสนเทศ ตลท.เปิดเผยว่า คณะทำงานด้านดัชนีราคาหลักทรัพย์และค่าสถิติภาพรวมตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้พิจารณาที่จะนำวิธีการคำนวณที่สามารถเทียบเคียงได้กับ WFE มาใช้ โดยจะเผยแพร่ค่าสถิติที่ใช้วิธีการคำนวณใหม่คู่ขนานไปกับค่าสถิติที่ใช้วิธีการในปัจจุบัน เป็นระยะเวลาประมาณ 1 ปี เพื่อให้ผู้ใช้ข้อมูลสามารถใช้ในการ อ้างอิง พร้อมทั้ง จะมีการทำข้อมูลสำหรับการอ้างอิงย้อนหลังไปอีก 5 ปีด้วย โดยจะเผยแพร่ผ่าน www.set.or.th
สำหรับอัตราส่วนราคาตลาดต่อมูลค่าหุ้นทางบัญชี (Price / Book Value หรือ P/BV) ที่ใช้วิธีการคำนวณแบบใหม่ จะคำนวณจากหลักทรัพย์สามัญที่อยู่ในการคำนวณดัชนี และจะนำส่วนของผู้ถือหุ้น รวมทั้งหุ้นที่ถือโดยบริษัทย่อยของทุกหลักทรัพย์เข้าไปรวมคำนวณด้วย ส่วนการคำนวณอัตราเงินปันผลตอบแทน(Dividend Yield) วิธีการใหม่ จะคำนวณจากหลักทรัพย์สามัญที่อยู่ในการคำนวณดัชนี จากปัจจุบันที่คำนวณจากหลักทรัพย์สามัญทั้งหมด
--อินโฟเควสท์ โดย สารภี สายะเวส/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--