นายนิพิฐ อรุณวงษ์ ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ บมจ.นวนคร (NNCL) เปิดเผยว่า ในปี 63 บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้จะเติบโต 5% โดยบริษัทจะเน้นการสร้างรายได้ประจำ (Recurring income) อย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้ประจำเป็น 80% ของรายได้ทั้งหมด ซึ่งมาจากการรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้า และธุรกิจให้บริการระบบสาธารณูปโภค เช่น การบริหารจัดการน้ำ ขายน้ำดี และบำบัดน้ำเสียให้กับลูกค้าในเขตนิคมอุตสาหกรรม
ทั้งนี้ บริษัทฯอยู่ระหว่างการเตรียมลงทุน โครงการศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ ภายในนิคมอุตสาหกรรมนวนคร ปทุมธานี ซึ่งจะเป็นการร่วมลงทุนกับพันธมิตร และแบ่งเป็นเฟส โดยคาดว่าเฟสแรกจะมีมูลค่า 1,000-2,000 ล้านบาท ทั้งนี้คาดว่าจะมีการเซ็นสัญญาร่วมทุนภายในเดือน ม.ค. 63
ด้านธุรกิจขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรม ปัจจุบันบริษัทมีนิคมอุตสาหกรรม ทั้งหมด 2 แห่ง ได้แก่ นิคมอุตสาหกรรนครราชสีมา และนิคมอุตสาหกรรมปทุมธานี ซึ่งขณะนี้มีลูกค้าสนใจเข้ามาจองซื้อที่ดินภายในนิคมอุตสาหกรรมแล้วหลายราย ล่าสุดบริษัทฯเซ็นสัญญากับลูกค้ารายใหญ่เพื่อขายที่ดินราว 115 ไร่ เฉลี่ยราคาขายอยู่ที่ 2-2.5 ล้านบาทต่อไร่ คาดว่าจะเริ่มโอนที่ดินให้กับลูกค้าได้อย่างเร็วที่สุดในเดือน ธ.ค. 62 หรืออย่างช้าที่สุดภายใน เดือน ม.ค. 63
นายนิพิฐ กล่าวว่า บริษัทฯ อยู่ระหว่างเดินหน้าก่อสร้าง โครงการผลิตไฟฟ้านวนคร เฟส 2 ที่ดำเนินการโดยบริษัท ผลิตไฟฟ้า นวนคร จำกัด (NNEG) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุน 3 ฝ่าย ประกอบด้วยบริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บมจ.ราช กรุ๊ป (RATCH) ถือหุ้น 40% NNCL และบมจ. โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) ถือหุ้นฝ่ายละ 30% โดยโครงการเฟส 2 มีกำลังผลิตติดตั้ง 60 เมกะวัตต์ และกำลังผลิตไอน้ำ 10 ตันต่อชั่วโมง มูลค่าโครงการประมาณ 3,105 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ในช่วงเดือน ส.ค. 63 เร็วกว่าแผนเดิมที่คาดว่าจะ COD ในเดือน ก.ย. 63 ส่งผลให้กำลังการผลิตไฟฟ้าและไอน้ำรวมของโครงการผลิตไฟฟ้า นวนคร เพิ่มขึ้นเป็น 185 เมกะวัตต์ และไอน้ำ ประมาณ 40 ตันต่อชั่วโมง