นางประวีรัตน์ เทวอักษร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.วิลล่า คุณาลัย (KUN) เปิดเผยว่า บริษัทพร้อมนำหุ้นเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 17 ธันวาคมนี้ ในหมวดธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง โดยใช้ชื่อย่อ "KUN" ในการซื้อขาย ซึ่งเชื่อว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน โดยเม็ดเงินระดมทุนในครั้งนี้ จำนวน 165 ล้านบาท บริษัทมีแผนที่จะนำไปต่อยอดเพื่อพัฒนาโครงการบ้านจัดสรร ภายใต้แนวคิด "สุขใจอยู่บ้านชานเมือง" เพื่อพัฒนาและขยายโครงการในทำเลอื่นๆ ตามแผนยุทธ์ศาสตร์ป่าล้อมเมือง ให้ครบ 4 ทิศ รอบกรุงเทพมหานคร (เหนือ,ใต้, ตะวันออก, ตะวันตก) เพื่อตอกย้ำให้เห็นถึงศักยภาพความตั้งใจ ในการต่อยอดธุรกิจเพื่อขยายอาณาจักรการสร้างเมือง ที่อยู่อาศัยแห่งใหม่เพิ่มเติม ให้สอดคล้องกับนโยบายและวิสัยทัศน์ที่บริษัทฯวางไว้ เพื่อเพิ่มศักยภาพความแข็งแกร่งของแบรนด์ธุรกิจ ในการก้าวสู่การเป็นผู้นำอันดับหนึ่งด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวราบเพื่อขายในเขตปริมณฑล
"การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในครั้งนี้ เป็นการเพิ่มศักยภาพการเติบโตทางธุรกิจให้มีความยั่งยืน โดยเม็ดเงินที่ได้จะนำมาเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการพัฒนาโครงการของบริษัทฯในอีก 2-3 ปีข้างหน้า พร้อมทั้งยังเป็นการเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับสถาบันการเงินในการลงทุนมากยิ่งขึ้นในอนาคต"นางประวีรัตน์ กล่าว
นางประวีรัตน์ กล่าวว่า บริษัทมีแผนที่จะนำเม็ดเงินระดมทุนไปพัฒนาโครงการที่อยู่ในระหว่างการดำเนินการ และโครงการในอนาคต จำนวน 2 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวม 2,172 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการคุณาลัย จอย 2 ซึ่งเป็นโครงการประเภทบ้านแฝด-บ้านเดี่ยว 2 ชั้น มูลค่าโครงการประมาณ 1,500 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าสามารถเปิดการขายได้ ภายในไตรมาส 2/63 และโครงการวิลล่า วาณิช เป็นโครงการ ประเภทอาคารพาณิชย์ มูลค่าโครงการประมาณ 672 ล้านบาท อีกทั้งใช้เป็นเงินลงทุนซื้อที่ดินสำหรับการพัฒนาโครงการใหม่ รวมถึงใช้ในการชำระคืนเงินกู้ยืมระยะสั้น และจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ
ด้านนายกอบเกียรติ บุญธีรวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.เอเชีย เวลท์ ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน กล่าวว่า บมจ.วิลล่า คุณาลัย มีความเชี่ยวชาญของผู้บริหารในการทำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวราบ ย่านบางบัวทอง มากว่า 10 ปีและยังมีการกระจายความเสี่ยงไปยังทำเลใหม่ของจังหวัดฉะเชิงเทรา ภายใต้โครงการ "คุณาลัยจอย ออน 314" บนพื้นที่ประมาณ 24 ไร่ โดยมองว่าทำเลดังกล่าวมีศักยภาพ อัตราการเติบโต และมีความต้องการของแหล่งที่อยู่อาศัย เช่นเดียวกับย่านบางบัวทอง ประกอบกับเขตพื้นที่บริเวณดังกล่าวเป็นแหล่งพื้นที่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งจากแผนการวางยุทธศาสตร์ของภาครัฐบาล เป็นตัวช่วยการันตีถึงศักยภาพการดำเนินธุรกิจได้เป็นอย่างดี
อีกทั้งมองว่าระดับราคา KUN ที่ระดับ IPO 1.10 บาทต่อหุ้นถือเป็นราคาที่เหมาะสม ซึ่งคิดจากอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) 10.78 เท่า โดยคำนวณกำไรสุทธิต่อหุ้น จากผลการดำเนินงานในช่วง 4 ไตรมาสล่าสุด (ตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 61 ถึง ไตรมาส 3 ปี 62 ) เทียบเคียงกับอัตราส่วน P/E Ratio เฉลี่ยของบริษัทใกล้เคียงที่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน มีค่าเท่ากับ 11.24 เท่า
ด้านนางปิยะภา จงเสถียร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส 14 แอดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวเพิ่มเติมว่า การเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ของ KUN ในวันที่ 17 ธันวาคมนี้ จะได้รับความสนใจจากนักลงทุน และเชื่อมั่นว่าธุรกิจมีศักยภาพการเติบโตอย่างโดเด่นต่อเนื่อง ประกอบกับ หากพิจารณาจากศักยภาพความแข็งแกร่งทางธุรกิจ KUN ถือว่าเป็นบริษัทที่อยู่ในช่วงการกำลังเติบโต และมียอดขายเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดอย่างต่อเนื่อง
โดยเห็นได้จากผลการดำเนินงานงวด ล่าสุด 9 เดือนแรก ของปี 2562 ซึ่งบริษัทมีความสามารถในการทำกำไรสุทธิ 43.15 ล้านบาท และมีอัตรากำไรขั้นต้นถึง 28% ซึ่งสูงกว่ากำไรในปี 2561ที่ผ่านมา ที่มีกำไรสุทธิ 11.56 ล้านบาท มีอัตรากำไรขั้นต้น 25% ประกอบกับในช่วงที่ผ่านมา หลังจากที่ภาครัฐมีนโยบายในการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ฯ อาทิ การลดค่าธรรมเนียมและช่วยลดเงินดาวน์ (บ้านดีมีดาวน์) จะช่วยเร่งการโอนกรรมสิทธิ์ ในช่วงไตรมาส 4/2562 ต่อเนื่องถึงปี 2563 ซึ่งมาตรการดังกล่าวถือว่าเป็นการกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภคได้มากขึ้น
สำหรับโครงการของ "วิลล่า คุณาลัย" ที่รับอานิสงส์จากมาตรการนี้ ประกอบด้วย โครงการ คุณาลัย บีกินส์ และโครงการ คุณาลัย บีกินส์ 2 เนื่องจากโครงการดังกล่าวอยู่ในระดับราคา เฉลี่ยไม่เกิน 3 ล้านบาท ดังนั้น จากศักยภาพจุดแข็งทางธุรกิจ ผนวกกับอานิสงส์จากนโยบายภาครัฐที่เข้ามาสนับสนุน และอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้เชื่อมั่นว่าหุ้น KUN จะเป็นหุ้นอสังหาริมทรัพย์น้องใหม่ที่น่าจับตาอีกหนึ่งตัวในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ