นายเอกจักร บัวหภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ บล.โกลเบล็ก ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บมจ.โรงพยาบาลอินเตอร์เมดิคัล แคร์ แอนด์ แล็บ (IMH) เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) พิจารณาอนุมัติแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวน (Filing) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 55 ล้านหุ้น คิดเป็น 25.58% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมด โดยมีมูลค่าที่ตราไว้ 0.50 บาท และบริษัทจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในหมวดธุรกิจบริการ
IMH ประกอบการโรงพยาบาลเอกชนเฉพาะทางด้านอาชีวเวชศาสตร์ ซึ่งมีการให้บริการตรวจสุขภาพประจำปีการตรวจสุขภาพปัจจัยเสี่ยง การตรวจสุขภาพก่อนเข้างาน และบริการตรวจวัดคุณภาพสิ่งแวดล้อม ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียนทั้งสิ้น 107.5 ล้านบาท โดยเป็นทุนที่ออกและเรียกชำระแล้ว 80 ล้านบาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญจำนวน 160 ล้านหุ้น ทั้งนี้ ภายหลังการออกและเสนอขายหุ้น IPO ในครั้งนี้ บริษัทจะมีทุนที่ออกและเรียกชำระแล้วเท่ากับ 107.5 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ จำนวน 215 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท
สำหรับวัตถุประสงค์ในการระดมทุนในครั้งนี้ เพื่อนำเงินไปใช้ลงทุนขยายและปรับปรุงพื้นที่สาขาให้บริการตรวจสุขภาพ ซึ่งเป็นโอกาสในการขยายธุรกิจตามความเติบโตของกลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการที่เป็นสวัสดิการขั้นพื้นฐานให้แก่ลูกจ้างที่กฎหมายกำหนดให้รับการตรวจสุขภาพประจำปี พร้อมทั้งใช้ในการจัดซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์ของบริษัทและบริษัทย่อยในธุรกิจบริการตรวจวัดคุณภาพสิ่งแวดล้อม อีกทั้งเพื่อใช้สำหรับการชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ
นายสิทธิวัตน์ กำกัดวงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร IMH กล่าวว่า บริษัทดำเนินกิจการโรงพยาบาลเอกชน เฉพาะทางด้านอาชีวเวชศาสตร์ ซึ่งมีการให้บริการตรวจสุขภาพประจำปี การตรวจสุขภาพปัจจัยเสี่ยง และการตรวจสุขภาพก่อนเข้างาน ด้วยทีมแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ในสาขาที่เกี่ยวข้องมากว่า 23 ปี พร้อมด้วยเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์และห้องปฏิบัติการที่ได้มาตรฐาน สามารถให้บริการตรวจสุขภาพทั้งในและนอกสถานที่ครอบคลุมทั่วประเทศ ผ่านรถเอ็กซ์เรย์พร้อมทีมแพทย์และพยาบาลเคลื่อนที่
บริษัทมีสาขาสำนักงานใหญ่ที่ถนนบางแวก จังหวัดกรุงเทพมหานคร และสาขาย่อย รวมทั้งสิ้นจำนวน 5 แห่ง ได้แก่ สาขาราชพฤกษ์ (ที่ตั้งสำนักงานใหญ่) และสาขาจดทะเบียนเป็นคลินิก ตามพื้นที่ต่างๆ 4 สาขา อาทิ สาขาระยอง สาขาชลบุรี สาขาปทุมธานี และสาขาอยุธยาฯ
สำหรับการเสนอขายหุ้นครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายการลงทุนและขยายธุรกิจเพื่อเพิ่มศักยภาพในธุรกิจการให้บริการทางการแพทย์ และธุรกิจให้บริการตรวจวัดคุณภาพสิ่งแวดล้อมที่บริษัทและบริษัทย่อยดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน โดยวัตถุประสงค์เพื่อสร้างผลตอบแทนสูงสุดให้แก่ผู้ถือหุ้น จึงทำให้ในเบื้องต้นมีนักลงทุนสถาบันแสดงความสนใจเข้าลงทุนในหุ้นเพิ่มทุน IPO ของบริษัท ถึงแม้จะยังไม่ได้เปิดให้จองซื้อหุ้นก็ตาม
"การระดมทุนในครั้งนี้ เพื่อเสริมศักยภาพการแข่งขันทางธุรกิจ ผ่านช่องทางระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ สู่การเป็นผู้นำการให้บริการ การตรวจสุขภาพอาชีวเวชศาสตร์ และการตรวจทางด้านสุขศาสตร์อุตสาหกรรมแบบครบวงจรนอกสถานที่ ที่ครอบคลุมการให้บริการทั่วประเทศในมาตรฐานคุณภาพระดับสากล ตามนโยบายและวิสัยทัศน์ ที่บริษัทฯวางไว้"
ทั้งนี้ จากประสบการณ์การให้บริการตรวจสุขภาพนอกสถานที่มามากกว่า 23 ปี โดยนำหลักวิชาการ และประสบการณ์ พร้อมทั้งเทคโนโลยีมาผสมผสานให้เกิดคุณค่าในการตรวจสุขภาพ และสุขศาสตร์อุตสาหกรรมที่เหมาะสม และมีคุณภาพสูงสุด ภายใต้สโลแกน "คุณธรรมนำวิชาการ เชี่ยวชาญด้านอาชีวอนามัย" เพื่อให้เป็นโรงพยาบาลด้านการตรวจสุขภาพอาชีวเวชศาสตร์ และตรวจทางด้านสุขศาสตร์อุตสาหกรรมชั้นนำ ที่มีผู้รับบริการตรวจสุขภาพนอกสถานที่ที่มากที่สุดในประเทศไทย
นอกจากนี้ บริษัทยังให้บริการตรวจสุขภาพแรงงานต่างด้าว การตรวจรักษาผู้ป่วยนอก (Out Patient Department: OPD) ให้บริการฉีดวัคซีน และให้บริการอบรมหลักสูตรการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและการช่วยฟื้นคืนชีพ (First Aid and Cardiopulmonary resuscitation) และหลักสูตรอื่นๆ เป็นต้น โดยสัดส่วนรายได้เฉลี่ยมาจาก 2 ธุรกิจประกอบด้วย (1)รายได้จากการให้บริการทางการแพทย์ 84.98% (2) รายได้จากการให้บริการตรวจวัดคุณภาพสิ่งแวดล้อม 15.02%
ผลการดำเนินงานในช่วง 3 ปีย้อนหลังที่ผ่านมา 59-61 และงวด 9 เดือนแรกของปี 62 กลุ่มบริษัทฯมีรายได้รวม 285.51 ล้านบาท 273.20 ล้านบาท 320.25 ล้านบาท และ 237.32 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 37.58 ล้านบาท 14.85 ล้านบาท 14.06 ล้านบาท และ 6.72 ล้านบาท ตามลำดับ ซึ่งเป็นการเติบโตของการให้บริการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง