หุ้น BAM ปิดเทรดวันแรกที่ 17.50 บาท เท่ากับราคาขาย IPO ที่ 17.50 บาท/หุ้น มูลค่าซื้อขาย 6,064.25 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 18.40 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 18.40 บาท และราคาลงต่ำสุด 17.50 บาท
บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯประเมินมูลค่าเบื้องต้นของ บมจ.บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ (BAM) มองว่าผลประกอบการในปี 63-64 มีแนวโน้มที่จะลดลงจากปี 61 เนื่องจากการพ้นสภาพของหน่วยงานของรัฐฯ ทำให้ BAM ต้องกลับมาเสียภาษีนิติบุคคลในอัตราปกติ อีกทั้งในปี 62 บริษัทมีกำไรพิเศษทางบัญชีทำให้ผลประกอบการเพิ่มขึ้นประมาณ 8 พันล้านบาท ด้านมูลค่าที่เหมาะสมเบื้องต้นหากอิง PBV ที่ 1.2-1.3 เท่าสำหรับปี 63 แล้วจะมีมูลค่าที่เหมาะสมประมาณ 20.60-22.30 บาท
BAM ประกอบธุรกิจบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (NPLs) และทรัพย์สินรอการขาย (NPAs) โดยเป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ถือหุ้นใหญ่โดยกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF) เพื่อจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพที่เกิดจากวิกฤติปี 2540
ปัจจุบันบริษัท แบ่งได้เป็น 2 กลุ่มธุรกิจหลัก คือ 1) ธุรกิจบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ บริษัทจะซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพจากสถาบันการเงินอื่นในประเทศไทย ได้แก่ ธนาคารและบริษัทบริหารสินทรัพย์อื่น และบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพด้วยการเจรจาปรับโครงสร้างหนี้กับลูกหนี้ โดยสินทรัพย์ด้อยคุณภาพที่บริษัทรับซื้อหรือรับโอนมาส่วนใหญ่มีหลักประกันเป็นอสังหาริมทรัพย์ซึ่งได้จดทะเบียนจำนองลำดับที่หนึ่งแก่บริษัท
และ 2) ธุรกิจบริหารจัดการทรัพย์สินรอการขาย บริหารจัดการทรัพย์สินรอการขายซึ่งส่วนใหญ่เป็นอสังหาริมทรัพย์ เช่น ที่ดินเปล่าซึ่งรวมถึงอสังหาริมทรัพย์เพื่อการเกษตรกรรม โรงแรม อาคารเพื่อการพาณิชย์ และที่อยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ และอาคารชุด รวมทั้ง สังหาริมทรัพย์และหลักทรัพย์อื่น ๆ
โครงการในอนาคต บริษัทฯ มีแผนจะนำเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนไปขยายฐานเงินทุนในการซื้อสินทรัพย์พร้อมทั้งลดระยะเวลาในการดำเนินงานลง และจะนำเงินส่วนที่เหลือไปใช้คืนหนี้ธนาคารและสถาบันการเงินอื่นๆ