นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัด จำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บมจ.สตาร์เฟล็กซ์ (SFLEX) เปิดเผยถึงความเชื่อมั่น SFLEX เป็นหุ้นน้องใหม่ไอพี โอพื้นฐานดี เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 110 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 1 บาทต่อหุ้น กำหนด ราคาไอพีโอไว้ที่ 3.88 บาทต่อหุ้น เมื่อเปรียบเทียบราคาเป้าหมายที่บริษัทหลักทรัพย์ที่ร่วมจัดจำหน่ายหุ้น IPO ของ SFLEX ประเมินไว้ที่ 5.40-6.48 บาทต่อหุ้น ถือว่าเป็นระดับราคาที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานและสภาวะของตลาดหลักทรัพย์ในปัจจุบันอย่างมาก ซึ่งเป็นอีกปัจจัย สนับสนุนความน่าสนใจในการลงทุนหุ้น SFLEX
นายปรินทร์ธรณ์ อภิธนาศรีวงศ์ ประธานกรรมการบริหาร SFLEX เปิดเผยว่า ด้วยประสบการณ์ในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์มา เป็นเวลานานกว่า 32 ปี จึงมีความรู้ความเชี่ยวชาญและความเข้าใจเกี่ยวกับธุรกิจอย่างลึกซึ้ง และมองว่าเป็นจังหวะที่ดีของธุรกิจ บริษัท พร้อมจะขยายการเติบโตเพื่อความยั่งยื่นในอนาคต
สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้จะเพิ่มศักยภาพในการผลิต การแข่งขัน และโอกาสในการขยายตลาดตามกลยุทธ์ที่วาง ไว้ ปัจจุบัน ลูกค้าหลักของบริษัท ได้แก่ ผู้ผลิตสินค้าอุปโภคและบริโภคชั้นนำของประเทศ เช่น บริษัท นีโอแฟคทอรี่ จำกัด, บริษัท เพอร์ เฟค คอมพาเนียน กรุ๊ป จำกัด, บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย โฮลดิ้งส์ จำกัด, บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท ไอ.พี. แมนู แฟคเจอริ่ง จำกัด เป็นต้น
บริษัทมีสัดส่วนยอดขายหลักมาจากกลุ่มบรรจุภัณฑ์สำหรับสินค้าอุปโภค คิดเป็นสัดส่วน 80-85% ของรายได้จากการขาย ขณะที่ บรรจุภัณฑ์สำหรับสินค้าบริโภคมียอดขายคิดเป็นสัดส่วน 15-20% จึงมองว่ายังมีโอกาสขยายตลาดบรรจุภัณฑ์สินค้าบริโภคได้อีกมาก นอกเหนือ จากตลาดบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนในประเทศ บริษัทยังมีเป้าหมายที่จะขยายตลาดไปยังกลุ่มประเทศ CLMV ด้วย
"บริษัทตั้งเป้าขยายตลาดไปยังบรรจุภัณฑ์กลุ่มอาหารเพิ่มขึ้นในปี 63 เนื่องจากตลาดบรรจุภัณฑ์สำหรับการบริโภคมีมูลค่าตลาด ใหญ่กว่ากลุ่ม Non-Food ควบคู่การขยายช่องทางไปยังตลาดใหม่ๆ ในขณะที่จะรักษาระดับความสามารถในการทำกำไรให้อยู่ในระดับที่ดี ซึ่งเป็นผลจากการที่สามารถเพิ่มกำลังการผลิตของโรงงานที่ 2 รวมถึงสามารถบริหารต้นทุนวัตถุดิบได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจาก นี้ บริษัทมีการนำเงินที่ได้จาก IPO ประมาณ 95 ล้านบาท ไปชำระคืนเงินกูยืมจากสถาบันการเงิน ทำให้ช่วยประหยัดต้นทุนทางการเงิน ของบริษัทฯ ลงได้อีกด้วย"นายปรินทร์ธรณ์ กล่าว
ทั้งนี้ บทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ 8 แห่ง ในฐานะผู้จัดจำหน่ายและร่วมจัดจำหน่ายหุ้น SFLEX ประเมินราคาเป้าหมายปี 63 ของ SFLEX ให้ช่วงราคาที่ 5.40-6.48 บาทต่อหุ้น สะท้อนความเชื่อมั่นในธุรกิจและโอกาสการเติบโต เนื่องจากเป็นหนึ่งในผู้นำ ธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนที่ได้รับการยอมรับจากลูกค้า ซึ่งกลุ่มลูกค้าหลักเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคและบริโภครายใหญ่ของ ประเทศไทย
บริษัทมีจุดแข็ง คือ ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในธุรกิจ ได้รับการยอมรับในด้านคุณภาพ และการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อสนับสนุนลูกค้า ความรวดเร็วในการส่งมอบงาน จึงสามารถแข่งขันกับคู่แข่งในระดับสากล และสามารถครองใจลูกค้ามายาวนาน เป็น อีกปัจจัยสนับสนุนความเชื่อมั่นของนักลงทุนในระยะยาวได้
บริษัทหลักทรัพย์ ราคาเหมาะสมปี 63 ฟินันเซีย ไซรัส 6.48 ไอ วี โกลบอล 6.14 ทรีนีตี้ 6.10 เคจีไอ (ประเทศไทย) 6.00 อาร์เอชบี (ประเทศไทย) 5.80 เอเซีย พลัส 5.80 โนมูระ พัฒนสิน 5.60 เคที ซีมิโก้ 5.40