นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะรีบาวด์ขึ้นได้หลังจากที่ร่วงแรงเมื่อวานนี้ แต่ตลาดฯก็ยังมีความเสี่ยงขาลงอยู่ จากปัจจัยในประเทศเป็นลบ ไม่ว่าจะการเติบโตกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่ต่ำ, การเมืองที่มีความไม่แน่นอน และเศรษฐกิจก็ยังชะลอตัว ทำให้ช่วงนี้ตลาดฯไม่มีอะไรมาขับเคลื่อนให้ไปต่อได้ จะมีก็แค่ลุ้นให้มีเม็ดเงินจากกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ,กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) เข้ามาช่วยหนุนตลาดฯได้บ้างเท่านั้น
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างก็บวกกัน หลังจากที่มีปัจจัยบวกจากเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ที่ตกลงกันได้ ทำให้หลายตลาดฯต่างขึ้นตอบรับ แต่ตลาดบ้านเราสวนทางตลาดอื่น จากแรงขายของนักลงทุนต่างชาติที่เข้ามา ขณะที่นักลงทุนสถาบันรอบนี้ไม่มีการซื้อเลย และสัปดาห์หน้าก็จะเริ่มเข้าสู่ช่วงวันหยุดระยะยาวตามเทศกาลอีก
ทั้งนี้ ในทางเทคนิควันนี้ไม่ควรหลุดแนวรับ 1,546 จุด หากหลุดก็จะมีแนวรับถัดไปที่ 1,530 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,555-1,560 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (16 ธ.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 28,235.89 จุด เพิ่มขึ้น 100.51 จุด (+0.36%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,191.45 จุด เพิ่มขึ้น 22.65 จุด (+0.71%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,814.23 จุด เพิ่มขึ้น 79.35 จุด (+0.91%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 138.77 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 0.87 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 122.60 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 0.15 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 11.25 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 0.18 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 2.52 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 6.47 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (16 ธ.ค.62) 1,549.74 จุด ลดลง 24.17 จุด (-1.54%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 4,839.13 ล้านบาท เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.62
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ม.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (16 ธ.ค.62) ปิดที่ระดับ 60.21 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 14 เซนต์ หรือ 0.2%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (16 ธ.ค.) อยู่ที่ -0.71 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 30.18/24 แนวโน้มทรงตัว รอติดตามการประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจจากกนง.พรุ่งนี้
- กพช.อนุมัติเกณฑ์โรงไฟฟ้าชุมชน รับซื้อ 700 เมกะวัตต์ ปี 2563-2565 อัตรา 3.7-5.3 บาท ต่อหน่วย รัฐจับมือเอกชนร่วมถือหุ้นได้ 60-90% ร่วมลงทุนกับวิสาหกิจชุมชน เปิดยื่นข้อเสนอ มี.ค.-เม.ย.นี้ เม็ดเงินหมุนเวียน 7 หมื่นล้านบาท มอบ กกพ.ศึกษาโครงสร้างค่าไฟรองรับรถอีวี
- ปตท.สผ.เทงบฯ ลงทุนปี 63 กว่า 1.43 แสนล้านบาท ส่วนงบฯ ลงทุนรวม 5 ปี รวมกว่า 7.16 แสนล้านบาท เตรียมลงทุนเพิ่มปริมาณการผลิตปิโตรเลียมในโครงการที่มีอยู่ เพิ่มการผลิตจากโครงการที่ประมูลได้ และเร่งหาประโยชน์จากโครงการที่ได้เข้าซื้อกิจการ เผยยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาหุ่นยนต์ที่ใช้ในการสำรวจ พัฒนา และผลิต พร้อมตั้งเป้าปริมาณการขายปิโตรเลียมเพิ่ม 11%
- แบงก์ชาติหารือสถาบันการเงินคลอดโครงการรีไฟแนนซ์สินเชื่อ ช่วยเหลือลูกหนี้ รายย่อย-เอสเอ็มอี ลุ้นลดดอกเบี้ยสินเชื่อบุคคลและบัตรเครดิตเหลือ 7-12% คาดได้สรุปไม่เกินไตรมาสแรกปี 2563
- นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยภายหลังกับผู้ประกอบการรถยนต์ เพื่อหารือถึงการออกร่างกฎหมายกองทุนส่งเสริมและพัฒนายานยนต์ไฟฟ้า ว่า กฎหมายตัวนี้จะกำหนดให้ผู้ซื้อรถยนต์ไฟฟ้าจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า ลูกละไม่เกิน 1 พันบาท ขึ้นอยู่กับขนาดของแบตเตอรี่ จำนวนนี้จะถูกนำเข้ากองทุนเพื่อเป็นเงินหมุนเวียนใช้บริหารการติดตามการกำจัดแบตเตอรี่ เมื่อเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้านำแบตเตอรี่ที่ครบอายุการใช้งานมาคืน กองทุนจะคืนเงินให้เจ้าของรถคันนั้น
- นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯ เตรียมหาทางผลักดันให้สำนักงบประมาณ จัดสรรงบประมาณให้กับหน่วยงานที่ทำงานด้านการท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น หรืออย่างน้อยต้องเพียงพอกับภารกิจที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้รับมอบหมาย โดยในปี 63 ตั้งเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาประเทศไทยที่ 42 ล้านคน เพิ่มขึ้น 2 ล้านคน จากปี 62 คาดว่ามีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาไทยจบที่ 40 ล้านคน
*หุ้นเด่นวันนี้
- KUN (บมจ. วิลล่า คุณาลัย) เทรดวันนี้วันแรก ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) สังกัดกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง โดยราคาขาย IPO 1.10 บาท/หุ้น โดย KUN และบริษัทย่อยเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่ออยู่อาศัยแนวราบภายใต้แบรนด์"คุณาลัย"เน้นพื้นที่ในเขตปริมณฑล ได้แก่ อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรีโครงการส่วนใหญ่มีราคาขายหลังละประมาณ 2-6 ล้านบาท ณ 30 กันยายน 2562 มีโครงการที่จัดสรรและปิดโครงการแล้ว 4 โครงการมูลค่าโครงการรวม 1,322.01 ล้านบาท โครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการ 7 โครงการมูลค่าโครงการรวม 3,904.73 ล้านบาทและโครงการในอนาคต 2 โครงการ มูลค่ารวม 2,172.00 ล้านบาท กลุ่มลูกค้าหลักของบริษัทฯ ได้แก่ กลุ่มลูกค้าวัยเริ่มทำงาน กลุ่มลูกค้าท้องถิ่นที่มีความต้องการขยายครอบครัว และกลุ่มลูกค้าที่ต้องการที่อยู่อาศัยเพิ่มเติม
- TCAP (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 62 บาท กำหนดวันขึ้น XD 27 ธ.ค. นี้ เพื่อจ่ายปันผลพิเศษหุ้นละ 4 บาท ช่วยจำกัด downside ของราคาหุ้นท่ามกลางความเสี่ยงขาลงของตลาด เพราะให้ Yield ที่สูงถึง 7% โดยจะจ่ายเงินวันที่ 16 ม.ค.2563 และเตรียมซื้อหุ้นคืน 8.33% หรือ 97 ล้านหุ้น วงเงิน 6 พันล้านบาท (มาจากกำไรที่ได้จากการขาย TBANK) ผ่านตลาดฯ ในช่วง 11 ก.พ.-10 ส.ค. 2563 ส่วนการซื้อหุ้นคืนทำให้ EPS, BVPS, DPS ในปี 2563 หลังจากขาย TBANK (และถือ 20% ใน new TMB) ไม่มี dilution (ถ้ามี ก็น้อยมาก) ราคาหุ้นปัจจุบันคิดเป็น 2563PE 8.5 เท่า 2563PBV 0.9 เท่า ถูกเกินไป
- BCH (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า IAA Consensus 20 บาท กำไรสุทธิยังเติบโตดี ระยะสั้นยังมี story และ upside จากประเด็นการขอปรับขึ้นค่ารักษาพยาบาลจากกลุ่มลูกค้าประกันสังคม โดยปกติจะมีการเจรจาเพื่อปรับค่ารักษาพยาบาลกันทุก 2 ปี (BCH ปรับขึ้นราคาครั้งสุดท้าย เมื่อเดือน ก.ค.ปี 2560)