บมจ.บีอีซี เวิลด์(BEC) คาดปี 51 รายได้และกำไรโต 2 หลัก ระบุรายได้ไตรมาสแรกปีนี้โตก้าวกระโดดหลังจากสถานการณ์ต่างๆ คลี่คลายดีขึ้น ทั้งการมีรัฐธรรมนูญใหม่ การเมืองนิ่ง ความเชื่อมั่นผู้บริโภคฟื้นตัว อีกทั้งช่อง 3 ได้ปรับขึ้นค่าโฆษณาเมื่อปลายปี 50-ต้นปี 51 โดยจะปรากฎผลชัดเจนได้ในไตรมาส 1/51 นี้
"ปีนี้ก็ยังขอโตสองหลักเหมือนเดิม ส่วนปี 50 เราจบที่ประมาณ 7 พันล้านบาท ถือว่าเป็นปีที่ดีที่สุดก็ว่าได้ทำให้รายได้ออกมาโต 15% และมีโอกาสที่รายได้ในไตรมาสที่ 1 ปี 51 จะเติบโตแบบก้าวกระโดด เนื่องจากได้แรงส่งต่อเนื่องจากเมื่อตอนไตรมาส 4 ปี 50 ซึ่งเราทำผลงานไว้ค่อนข้างดี รวมทั้งยังมีการปรับขึ้นค่าโฆษณาช่วงละครหลังข่าวตอนปลายปี 50-ต้นปี 51 ประมาณ 7% อีกทั้งหลังมีรัฐธรรมนูญใหม่ การเมืองนิ่ง ความเชื่อมั่นผู้บริโภคฟื้นตัว"นายฉัตรชัย เทียมทอง ผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน BEC
นายฉัตรชัย กล่าวว่า แนวโน้มของอุตสาหกรรมโฆษณาในปีนี้มีโอกาสเติบโตในทิศทางที่ดีหลังจากที่ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นมากขึ้น สำหรับช่อง 3 เองก็ยอมรับว่า การที่สถานีโทรทัศน์ TITV หายไปก็ส่งผลดีต่อเรา แต่ยังเห็นตัวเลขไม่ชัดเจน คงต้องรอดู Demand ที่จะเข้ามาตอนเข้าสู่ช่วงไตรมาส 2 เพราะเป็น High Season ซึ่งก็เป็นไปได้ที่รายได้ในไตรมาส 2 ปี 51 จะดีกว่าไตรมาส 1 อีก
"อาจจะมีการขึ้นค่าโฆษณาอีกรอบ แต่ยังไม่มีการกำหนดระยะเวลาที่แน่นอน เพราะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และดีมานด์ของลูกค้าว่ามีมากน้อยแค่ไหน"นายฉัตรชัย กล่าว
ช่อง 3 ปรับขึ้นค่าโฆษณาช่วงละครหลังข่าวตอนปลายปี 50-ต้นปี 51 ประมาณ 7% เป็น 450,000 บาท/นาที จากเดิม 420,000 บาท/นาที
สำหรับรายการประเภทข่าวของช่อง 3 ที่มีเรทติ้งดีที่สุดในขณะนี้ คือ เรื่องเด่นเย็นนี้ และเรื่องเล่าเช้านี้ ยังไม่มีการปรับขึ้นค่าโฆษณา โดยปัจจุบันค่าโฆษณาของทั้งสองรายการอยู่ที่ 175,000 บาท/นาที
นายฉัตรชัย กล่าวว่า ช่อง 3 มีแผนจะไปโรดโชว์ฮ่องกงในช่วงปลายเดือนมี.ค.นี้ เป็นระยะเวลา 3-4 วัน ร่วมกับบล.เครดิต สวิส เฟิร์สท์ บอสตัน เป็นงานพบนักลงทุนที่จัดค่อนข้างใหญ่ จะมีนักลงทุนจากทั่วโลกนับพันคนเข้ามาร่วมรับฟังข้อมูล
นายฉัตรชัย ยังกล่าวอีกว่า ปีนี้ช่อง 3 มีการปรับตัวครั้งใหญ่ในส่วนของครอบครัวข่าว 3 นอกเหนือจากการได้บุคลากรข่าวจาก TITV เดิมมาร่วมงานด้วย 7 คน ยังได้มีการทุ่มงบลงทุนหลัก 100 ล้านบาท ซื้อระบบเทคโนโลยีการนำเสนอรายการแบบ
Interactive บนหน้าจอ Touch Screen เข้ามาใช้ในรายการข่าวทุกช่วงเพื่อช่วยเพิ่มอรรถรสในการรับชมข่าวสารให้มากขึ้น
ด้านนายประวิทย์ มาลีนนท์ กรรมการ กล่าวว่า ภายในสัปดาห์นี้จะตอบรับนัดกับ บมจ.อสมท.(MCOT) เกี่ยวกับการเจรจาเรื่องสัญญาสัมปทาน โดยคาดว่าเรื่องดังกล่าวจะสามารถจบลงด้วยดีและคงไม่ถึงขั้นต้องฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย
พร้อมกันนี้ ยังกล่าวถึงการทำธุรกิจดาวเทียมด้วยว่าพร้อมที่จะทำดาวเทียมทุก platform เพียงแต่ขณะนี้ยังต้องรอ พ.ร.บ.ประกอบกิจการโทรคมนาคม
นายประวิทย์ กล่าวว่า ล่าสุดช่อง 3 ได้ปรับผังรายการใหม่ในไตรมาส 1 ด้วยการส่งรายการใหม่ ทั้งละคร 8 เรื่อง รายการข่าว สาระบันเทิง และรายการใหม่ 5 รายการ รวมทั้งการเปิดตัวผู้ประกาศข่าวจากทีไอทีวีเดิม 7 คน ซึ่งคาดว่าจะเข้ามาช่วยเสริมทัพครอบครัวข่าวและเป็นการตอบสนองความต้องการของผู้ชมให้ได้มากที่สุด
อย่างไรก็ตาม หลังปรับผังรายการครั้งนี้ สัดส่วนระหว่างรายการข่าวกับบันเทิงจะยังอยู่ที่ 50:50
--อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/กษมาพร/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--