ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (3 มี.ค.) จากแรงขายหุ้นกลุ่มธนาคารและการชะลอตัวลงของตลาดหุ้นนิวยอร์ก แต่หุ้นธนาคาร HSBC ดีดตัวขึ้นหลังจากธนาคารเปิดเผยผลประกอบการที่สดใส
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดร่วงลง 65.7 จุด หรือ 1.12% แตะระดับ 5,818.6 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,770.1-5,884.3 จุด มีปริมาณการซื้อขาย 2.4 พันล้านหุ้น
เดวิด อีวานส์ นักวิเคราะห์จาก BetOnMarkets.com กล่าวว่า "วอร์เรน บัฟเฟตต์ เจ้าของบริษัทเบิร์คเชียร์ แฮทธาเวย์ อิงค์าร แสดงความคิดเห็นทางสถานีโทรทัศน์ CNBC ว่าเศรษฐกิจสหรัฐอยู่ในภาวะถดถอยแล้ว ทุกครั้งที่คนอย่างบัฟเฟตต์พูด นักลงทุนจะฟังเสมอ และการที่บัฟเฟตต์แสดงความคิดเห็นในด้านลบเช่นนี้ จึงทำให้ตลาดถูกปกคลุมด้วยความวิตกกังวลทันที"
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนได้รับแรงกดดันจากการอ่อนตัวลงของตลาดหุ้นนิวยอร์ก หลังจากราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กทะยานขึ้น 61 เซนต์ แตะระดับ 102.45 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลว่าการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันจะทำให้แรงกดดันด้านเงินเฟ้อในสหรัฐเพิ่มขึ้น
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างในเดือนม.ค.ของสหรัฐ ปรับตัวลง 1.7% ขณะที่สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีกิจกรรมการผลิตของโรงงานทั่วประเทศ ลดลงสู่ระดับ 48.3 จุดในเดือนก.พ. จากเดือนม.ค.ที่ระดับ 50.7 จุด โดยดัชนีที่ต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ถึงการหดตัว
หุ้นธนาคาร HSBC พุ่งขึ้น 3.1% หลังจากธนาคารเปิดเผยกำไรพุ่งขึ้น 10% ในปี 2550 เพราะได้รับปัจจัยหนุนจากธุรกิจที่แข็งแกร่งของ HSBC ในภูมิภาคเอเชีย โดยธนาคารสามารถรับมือกับหนี้เสียมูลค่า 1.72 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นผลมาจากปัญหาในตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐ
แต่หุ้นตัวอื่นๆในกลุ่มธนาคารถูกเทขาย โดยหุ้น HBOS ดิ่งลง 45 เพนซ์ ปิดที่ 558 เพนซ์ หลังจากนักวิเคราะห์ของแบร์ สเติร์นส์ ปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าวลงสู่ระดับ 'peer perform' จากระดับ 'outperform' ขณะที่หุ้นรอยัล แบงค์ ออฟ สก็อตแลนด์ รูดลง 15 เพนซ์ ปิดที่ 369 เพนซ์ และหุ้นบาร์เคลย์สปิดร่วงลง 15 เพนซ์ ปิดที่ 452 เพนซ์
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--