ภาวะตลาดหุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าแกว่ง-บวกเล็กน้อย ตามตลาดตปท.,ปัญหาซับไพร์มกดดันโดยรวม

          นายปรเมศร์ ทองบัว ผู้อำนวยการสำนักวิจัย บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งตัว อาจจะบวกได้เล็กน้อย ในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศที่ค่อนข้างจะทรงตัว โดยตลาดยังคงรับแรงกดดันจากผลที่เกิดขึ้นอันเนื่องมาจากปัญหาซับไพร์มที่ยังมีออกมาให้เห็นอย่างต่อเนื่อง และตลาดไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามากระตุ้นการลงทุน 
          สำหรับการยกเลิกมาตรการสำรอง 30% จะเห็นได้ว่าตลาดฯไม่ได้ตอบรับมากนัก และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะมีการนำเรื่องเข้าครม.ในวันนี้(4 ก.พ.)มองว่าตลาดฯก็ได้รับรู้มาบ้างพอสมควรแล้ว จึงคิดว่าไม่น่าจะเป็นตัวกระตุ้นให้ตลาดฯต้องปรับตัวไปได้ไกล
          ทั้งนี้ มองกรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีฯไว้ที่ 840-850 จุด พร้อมแนะเล่นหุ้นเป็นรายตัว โดยอิงในเรื่องของการจ่ายเงินปันผลของบริษัทจดทะเบียน
          ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :  
          - ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(3 มี.ค.) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 12,258.90 จุด ลดลง 7.49 จุด(-0.06%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,331.34 จุด เพิ่มขึ้น 0.71 จุด(+0.05%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 2,258.60 จุด ลดลง 12.88 จุด (-0.57%)  
          - นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,210.79 ล้านบาทเมื่อวานนี้
          - ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน เม.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้ที่ 102.45 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.61 ดอลลาร์
          - คลังประเมินมาตรการภาษีกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวเพิ่มอีก 1% แม้รัฐจะสูญเสียรายได้ 4 หมื่นล้านบาทต่อปี ตลาดหลักทรัพย์-บลจ.เชื่อขยายวงเงินลดหย่อนภาษีกองทุนรวมจากไม่เกิน 3 แสนบาทเป็น 5 แสนบาท หนุนคนออมเงินเพิ่มส่งผลดีระยะยาว สภาอุตสาหกรรมมั่นใจแม้รัฐต้องสูญรายได้แต่ก็คุ้ม พร้อมเสนอ 12 แนวทางร่วมกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐบาล 
            ขณะที่"พาณิชย์"เผยเงินเฟ้อก.พ.สูงสุดรอบ 20 เดือนเพิ่มขึ้น 5.4 % เหตุจากน้ำมัน-ผักสด-เนื้อสัตว์ราคาสูง ย้ำเป้าหมายคุมเงินเฟ้อทั้งปี 3.5% ขอประเมินสถานการณ์ช่วง6 เดือนก่อนปรับคาดการณ์
          - นักเศรษฐศาสตร์มะกัน มองปัญหาสินเชื่อซับไพร์มเป็นภัยคุกคามเศรษฐกิจอันดับหนึ่งตลอด 2 ปีข้างหน้า  ด้านตลาดหุ้นเอเชียแห่ร่วงวิตกเศรษฐกิจสหรัฐถดถอย  ส่วนเงินดอลลาร์ทำสถิติอ่อนค่าสุดรอบใหม่
          - แบงก์ชาติ หารือแบงก์พร้อมส่งหนังสือถึงธนาคารพาณิชย์ เบรกทำธุรกรรมเก็งกำไรค่าเงินบาท หลังเลิกมาตรการ 30% ขณะเดียวกันยอมรับเข้าดูแลบาทวานนี้ เพื่อให้เคลื่อนไหวไม่ผันผวน 
          - สำนักงานสลากฯ พร้อมที่จะเดินหน้าตามนโยบายรัฐบาล โดยได้เสนอรายงานแนวทางเรื่องการจำหน่ายสลากแบบเลขท้าย 3 และ 2 ตัว หรือหวยบนดิน 3 แนวทางให้กับ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ผ่านทางคณะที่ปรึกษาให้พิจารณาแล้ว
          - รมว.คมนาคม ได้สั่งการให้นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ไปศึกษารายละเอียดในการผลักดันโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงบางซื่อ-ท่าพระ และช่วงหัวลำโพง-บางแค โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ว่าจะพร้อมดำเนินการในปี 2551 นี้หรือไม่ เพราะได้ออกแบบรายละเอียดเป็นการยกระดับไปเรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้างได้ภายใน 3 ปี รวดเร็วกว่าการก่อสร้างรถไฟฟ้าใต้ดิน
          - รมว.พาณิชย์ กล่าวเป้าหมายการส่งออกสินค้าไทยปี 2551 ยังคงยืนเป้าเดิมไว้ที่ 12.5% แต่ต้องการให้ทูตพาณิชย์เร่งทำงาน เพื่อผลักดันให้การส่งออกขยายตัวได้ในระดับ 15% ซึ่งเป็นเป้าหมายสูงสุดที่กระทรวงพาณิชย์ต้องการ แม้ว่าขณะนี้ไทยจะมีปัจจัยเสี่ยงจากการยกเลิกมาตรการกันสำรอง 30% ซึ่งทำให้ค่าเงินบาทไทยอาจมีการพลิกผันที่รุนแรง