นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บมจ.ศุภาลัย (SPALI) เปิดเผยว่า แผนการเปิดโครงการอสังหาริมทรัพย์ในปี 63 เบื้องต้นคาดว่าจำนวนโครงการที่เปิดจะใกล้เคียงกับปีนี้ที่เปิดใหม่จำนวน 30 โครงการ แต่มูลค่าจะลดลงจากปีนี้ที่อยู่ระดับ 3.5 หมื่นล้านบาท เนื่องจากจะไม่มีโครงการขนาดใหญ่อย่างโครงการศุภาลัย ไอคอน สาทร มูลค่า 2 หมื่นล้านบาทที่เปิดตัวในปีนี้ อีกทั้งจะเน้นการเปิดโครงการแนวราบมากขึ้นกว่าปีนี้ที่เปิดไป 25 โครงการ และชะลอการเปิดโครงการคอนโดมิเนียม เนื่องจากความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยแนวราบมีมากกว่าคอนโดมิเนียมอย่างชัดเจน
สำหรับการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในปี 63 จะเน้นจับกลุ่มลูกค้าระดับล่าง-กลางมากขึ้น ซึ่งเป็นระดับราคาที่จับต้องได้และลูกค้าเข้าถึงมากขึ้น เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจยังชะลอตัวอยู่ ทำให้กำลังซื้อลดลง และความมั่นใจลดลงตามไปด้วย รวมถึงจะเน้นการเปิดในทำเลที่มีความต้องการจริงและเป็นที่สนใจของลูกค้า ซึ่งแผนงานในปี 63 บริษัทอยู่ระหว่างการจัดทำและเตรียมให้คณะกรรมการพิจารณาในเร็ว ๆ นี้
ส่วนการโอนโครงการคอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จใหม่ในปี 63 จะมีจำนวนทั้งหมด 4 โครงการ ได้แก่ โครงการศุภาลัย ลอฟท์ สี่แยกไฟฉาย มียอดขาย 95% โครงการศุภาลัย พาร์ค ตลาดพลู มียอดขาย 60% โครงการศุภาลัย ออเรียนทัล สุขุมวิท 39 มียอดขาย 60% และโครงการศุภาลัย ไพร์มไลท์ พระราม 9 มียอดขาย 30% ส่วนใหญ่จะโอนในครึ่งหลังของปี 63 ซึ่งบริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) ราว 4 หมื่นล้านบาท ทยอยรับรู้ในปี 63 ราว 1 หมื่นล้านบาท โดยคอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จใหม่ในปีหน้ามีจำนวน 4 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 1.58 หมื่นล้านบาท
ขณะเดียวกันบริษัทมีสต็อกพร้อมโอนที่เหลือขายในปัจจุบันอยู่ที่ 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นระดับที่เพิ่มขึ้นและสูงที่สุดของบริษัท เป็นผลจากภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ชะลอตัวตามเศรษฐกิจ และได้รับผลกระทบจากมาตรการ LTV และปริมาณคอนโดมิเนียมในตลาดที่มีอยู่มาก ทำให้กระทบต่อการขายโดยเฉพาะการขายคอนโดมิเนียม
นายไตรเตชะ กล่าวว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 63 อาจจะยังเป็นภาพการชะลอตัวอยู่บ้าง แม้ว่าในไตรมาส 1 คาดว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์จะได้รับปัจจัยบวกจากมาตรการสนับสนุนของภาครัฐ ทำให้ตลาดในไตรมาสแรกจะฟื้นตัวขึ้นมา แต่อาจจะเห็นแผ่วลงในไตรมาส 2 เพราะมีการดึงดีมานด์มาใช้ในไตรมาสแรกไปแล้ว ส่วนในครึ่งปีหลังจะต้องดูว่าภาวะเศรษฐกิจเป็นอย่างไร
ขณะที่งบซื้อที่ดินในปี 63 จะอยู่ระดับใกล้เคียงกับปีนี้ที่ 8 พันล้านบาท แม้ว่าปีนี้บริษัทจะใช้งบซื้อที่ดินไม่ได้เป็นไปตามเป้าหมาย โดยใช้ไปเพียง 6 พันล้านบาท เนื่องจากภาวะของเศรษฐกิจและอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่ดี ประกอบกับราคาขายที่ดินยังไม่เห็นการปรับลดลง ทำให้บริษัทไม่เร่งรีบที่จะซื้อที่ดิน และรอจังหวะที่มีความเหมาะสมก่อนที่จะตัดสินใจซื้อที่ดินมาพัฒนาโครงการ อีกทั้งยังมีที่ดินรองรับต่อการพัฒนาอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งมีมูลค่าที่ดินในมือหากพัฒนาแล้วรวมกว่า 1 แสนล้านบาท
สำหรับในปีนี้คาดว่ายอดขายจะทำได้ต่ำกว่าเป้าหมายราว 2 พันล้านบาทจากเป้าหมายที่ 3.5 หมื่นล้านบาท หลังได้เลื่อนเปิดโครงการใหม่ 4-5 โครงการ มูลค่า 5 พันล้านบาท ตามการชะลอตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์และเศรษฐกิจ
ล่าสุด บริษัทเปิดโครงการ "ศุภวัฒนาลัย" (Supalai Wellness Valley) โครงการเพื่อสังคมคุณภาพของผู้ที่มีอายุ 50+ ใหม่ล่าสุด และเป็นโครงการบ้านผู้สูงอายุโครงการแรกของบริษัท ตั้งอยู่บนที่ดินรวมกว่า 180 ไร่ ใกล้โค้งแม่น้ำป่าสักที่สวยที่สุด ณ อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี โดยสร้างเป็นบ้านพักผู้สูงอายุ ขนาดประมาณ 55 ตร.ม. 1 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่น/อาหาร และ 1 ห้องน้ำ พร้อมพื้นที่หน้าบ้าน-หลังบ้าน ที่จะทำสวนส่วนตัว จำนวน 144 ยูนิต ซึ่งพัฒนาเฟสแรกจำนวน 65 ยูนิต เป็นบ้านพักอาศัย 1 ชั้น
สำหรับข้อกำหนดของผู้พักอาศัยต้องมีอายุ 50 ปีขึ้นไป มีสิทธิพักอาศัยภายในโครงการตลอดชีพ ราคาเช่าซื้อระยะยาว โปรโมชั่นพิเศษเพียง 1.3 ล้านบาท สำหรับผู้พักอาศัย 1 ราย และราคา 1.5 ล้านบาท สำหรับผู้พักอาศัย 2 ราย