นายพายุพัด มหาผล กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย หุ้นสามัญเพิ่มทุน บมจ.อิ๊กดราซิล กรุ๊ป (YGG) เปิดเผยว่า บริษัทได้กำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 45 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 5 บาท มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาท โดยจะเปิดให้จองซื้อระหว่างวันที่ 25-27 ธ.ค.62 เตรียมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 7 ม.ค.63 นี้ ในกลุ่ม service โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายว่า YGG
สำหรับการขายหุ้นไอพีโอในครั้งนี้ บริษัทฯได้แต่งตั้ง บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย โดย บล.เคที ซิมิโก้ เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
ขณะที่นายธนัช จุวิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร YGG กล่าวว่า บริษัทฯเตรียมนำเงินไปใช้ขยายอาคารสำนักงานแห่งใหม่ในกรุงเทพฯ และลงทุนจัดตั้งบริษัทย่อยในต่างประเทศ เพื่อขยายขอบเขตการให้บริการลูกค้าในภูมิภาคเอเชีย และอเมริกา
"การเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ mai ในครั้งนี้ ถือเป็นการสร้างโอกาสในการเติบโตให้กับธุรกิจของ YGG ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งตลาดมีมูลค่ามหาศาล ทำให้ผลการดำเนินงานมีโอกาสการเติบโตอย่างก้าวกระโดด และทำให้บริษัทฯเป็นที่ยอมรับของลูกค้า และเชื่อมั่นในแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่ง ภายหลังเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai"
ที่ผ่านมาผลงานของบริษัทฯได้รับการยอมรับจากลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ จากการส่งมอบงานโฆษณา ภาพยนตร์ แอนิเมชัน งานคอมพิวเตอร์กราฟฟิก และเกม ที่คุณภาพมาตรฐานสามารถแข่งขันกับต่างชาติได้ ซึ่งเห็นได้จากการส่งมอบงานให้ลูกค้า แทบจะไม่ต้องมาแก้ไขงานตามหลังอีก ลูกค้ามีการแนะนำปากต่อปาก
ล่าสุด บริษัทได้งานของเน็ตฟลิกซ์ทำซีรีส์เรื่อง "เคว้ง" โดยได้ทำ CG ในตอนใหญ่ๆ ที่สำคัญๆ หนังฟอร์มยักษ์จากประเทศจีนที่กำลังจะฉายเรื่อง "นาจา" ในเดือน ธ.ค.นี้ YGG ก็เป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการผลิต โดยปัจจุบันบริษัทฯมีงานในมือที่รอทยอยส่งมอบประมาณ 57 ล้านบาท และอยู่ระหว่างเข้ารับงานใหม่ในหลายโปรเจ็คต์
อนึ่ง YGG ประกอบธุรกิจออกแบบและจัดทำคอมพิวเตอร์กราฟิกเกี่ยวกับงานโฆษณาภาพยนตร์,แอนิเมชัน และเกม โครงสร้างรายได้ของบริษัทประมาณ 70% มาจากต่างประเทศ (จีน และญี่ปุ่น) และในประเทศ 30% โดยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (59-61) บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 28.14 ล้านบาท 14.02 ล้านบาท และ 21.09 ล้านบาทตามลำดับ ขณะที่งวด 9 เดือนแรกของปี 62 มีกำไรสุทธิ 41.31 ล้านบาท