SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,572.13 จุด ลดลง 0.79 จุด (-0.05%) มูลค่าการซื้อขาย 20,024.06 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ เผยตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวค่อนข้างผันผวนในช่วงเช้า หลังจากที่ดีดตัวขึ้นกว่า 8 จุดก่อนจะลดช่วงบวกลงมา คาดว่าตลาดยังได้อานิสงส์จากแรงซื้อของกองทุน LTF รวมถึงคาดหวังการทำ Window Dressing ประคองไว้ แม้ล่าสุดตัวเลขส่งออกเดือนพ.ย.ยังคงหดตัวลงแรงกว่า 7% เชื่อนักลงทุนส่วนใหญ่ซึมซับข่าวไปแล้ว พร้อมมองช่วงบ่ายดัชนีน่าจะยังแกว่งตัวแดนบวกได้เล็กน้อย แนะติดตามปัจจัยทางการเมืองเป็นปัจจัยถ่วง ส่วนต่างชาติคาดชะลอลงทุนช่วงใกล้วันหยุดยาว ให้กรอบแกว่งตัว 1,560-1,580 จุด
ตลาดหลักทรัพย์ฯปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,572.13 จุด ลดลง 0.79 จุด (-0.05%) มูลค่าการซื้อขาย 20,024.06ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,581.40 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,572.07 จุด
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของหุ้นไทยช่วงเช้าค่อนข้างผันผวน โดยดัชนีปรับขึ้นไปกว่า 8 จุด ก่อนจะลดช่วงบวกลงมา ส่วนหนึ่งตลาดยังได้รับอานิสงส์เชิงบวกจากกรณีสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐที่มีทิศทางดีขึ้น และการเข้ามาซื้อของกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ในช่วงใกล้สิ้นปี รวมถึงความคาดหวังการทำราคาปิดสิ้นงวดบัญชี (Window dressing)
อย่างไรก็ตามปัจจัยทางการเมืองภายในประเทศยังเป็น Overhang อยู่ โดยเฉพาะการที่ศาลรัฐธรรมนูญเตรียมวินิจฉัยกรณียุบพรรคอนาคตใหม่โดยปราศจากการไต่สวในคดีที่ถูกกล่าวหาเป็นปฏิปักษ์และล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข รวมถึงยังต้องติดตามศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณารับคำร้อที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยื่นให้ยุบพรรคอนาคตใหม่กรณีเงินกู้ยืมของพรรคหรือไม่
ขณะที่การประกาศตัวเลขส่งออกของไทยที่ยังหดตัวต่อเนื่อง โดยในเดือนพ.ย. -7.39% เมื่อเทียบกับพ.ย.61 ส่งผลให้ในช่วง 11 เดือนแรกปีนี้ -2.77% มองว่าส่วนหนึ่งตลาดน่าจะรับรู้ปัจจัยลบดังกล่าวไปบ้างแล้ว ส่วนนักลงทุนต่างชาติก็น่าจะชะลอการลงทุนในช่วงใกล้วันหยุดเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ โดยวันนี้ตลาดน่าจะได้รับปัจจัยหนุนจากกรณีของ LTF และ Window Dressing เข้ามาช่วยประคองตลาดให้แกว่งตัวในลักษณะ Sideway up ในการซื้อขายภาคบ่าย มีกรอบ 1,560-1,580 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 818.69 ล้านบาท ปิดที่ 74.75 บาท ลดลง 0.25 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 691.05 ล้านบาท ปิดที่ 44.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
BBL มูลค่าการซื้อขาย 623.13 ล้านบาท ปิดที่ 158.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 585.15 ล้านบาท ปิดที่ 125.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 576.45 ล้านบาท ปิดที่ 219.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท