นายชลัช ชินธรรมมิตร์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.น้ำตาลขอนแก่น (KSL) เปิดเผยว่า แนวโน้มกำไรสำหรับปี 62/63 (พ.ย.62-ต.ค.63) จะทำได้ในระดับทรงตัวถึงดีขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปี 61/62 (พ.ย.61-ต.ค.62) แม้ว่าแนวโน้มราคาน้ำตาลจะปรับตัวขึ้น โดยเฉพาะราคาส่งออกน้ำตาลที่คาดว่าจะดีขึ้นมาอยู่ที่ราว 13 เซนต์/ปอนด์ และมีโอกาสปรับเพิ่มขึ้นอีก โดยประเมินราคาน้ำตาลเฉลี่ยปี 62/63 เบื้องต้นน่าจะอยู่ที่ราว 15-16 เซนต์/ปอนด์ จากปริมาณน้ำตาลที่มีออกสู่ตลาดน้อย หลังผลผลิตอ้อยลดลง เพราะเผชิญกับภาวะภัยแล้งจากปริมาณฝนที่ตกไม่มากนัก ทำให้คาดว่าปี 62/63 จะมีปริมาณอ้อยเข้าหีบราว 7.5-8 ล้านตันอ้อย จากปีก่อนหน้าที่มีปริมาณอ้อยเข้าหีบกว่า 9 ล้านตันอ้อย
ส่วนธุรกิจเอทานอล และไบโอดีเซล (B100) ที่ดำเนินการภายใต้บมจ.บีบีจีไอ (BBGI) ซึ่งบริษัทถือหุ้นอยู่ 40% นั้น คาดว่าจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยราคาเอทานอล ปรับขึ้นมาเล็กน้อย แต่ถ้าเทียบกับราคาวัตถุดิบที่ขึ้นมาค่อนข้างมากทั้งในส่วนของมันสำปะหลัง และกากน้ำตาล ก็ทำให้มาร์จิ้นไม่มากนัก แต่เชื่อว่าหลังจากนี้จะเห็นผลประกอบการของกลุ่มเอทานอลดีขึ้นในระยะกลาง ตามทิศทางราคาที่จะขยับขึ้นตามต้นทุนวัตถุดิบ และปริมาณการบริโภคที่เพิ่มขึ้นมาอยู่ในระดับ 4 ล้านลิตร/วันในช่วงปลาย จากเดิมที่อยู่ในระดับ 4 ล้านลิตร/วันในช่วงกลาง จากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิตรวมของทั้งประเทศราว 6 ล้านลิตร/วัน ขณะที่การใช้ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากการที่รัฐบาลจะส่งเสริมการใช้ E20 เป็นน้ำมันเบนซินพื้นฐานในอนาคต
ด้านธุรกิจไบโอดีเซล ก็มีราคาขยับขึ้นมาอยู่ที่ราว 30 บาท/ลิตร ปรับเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) ที่สูงขึ้น หลังรัฐบาลประกาศการใช้น้ำมันดีเซล B10 เป็นน้ำมันดีเซลพื้นฐานตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.63 ซึ่งจะผลักดันให้ผลประกอบการของ BBGI ดีขึ้น และส่งผลส่วนแบ่งกำไรที่บริษัทจะได้รับเข้ามามากขึ้นด้วย สำหรับธุรกิจผลิตไฟฟ้าของบริษัทก็ยังคงมีทิศทางที่ดีต่อเนื่อง
"กำไรสุทธิของ KSL ปีหน้าก็คงจะใกล้เคียงปีนี้ ไฟฟ้าก็ดีเหมือนเดิม เอทานอลดูดีขึ้น BBGI ก็จะมีรายได้จากเอทานอลและไบโอดีเซล ตอนนี้ราคาขึ้นมา 30 สำหรับ B100 ทำให้ผลประกอบการรวมของ BBGI ดีขึ้น KSL ก็จะบุ๊คกำไรส่วนนี้มากขึ้น...ธุรกิจน้ำตาลโดยรวมน่าจะทรง ๆ เหมือนเดิมถึงดีขึ้น รายได้ลดลงนิดหน่อย เพราะของน้อยลง 20% ราคาเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 10-15%"นายชลัช กล่าว
KSL ยังไม่ได้ประกาศผลประกอบการปี 61/62 ที่สิ้นสุดเดือนต.ค.62 แต่ในช่วง 9 เดือนแรกของปี บริษัทมีกำไรสุทธิ 725.28 ล้านบาท และมีรายได้จากการขายและบริการ 1.08 หมื่นล้านบาท ขณะที่ปี 60/61 สิ้นสุดเดือนต.ค.61 บริษัทมีกำไรสุทธิ 848.06 ล้านบาท และมีรายได้จากการขายและบริการ 1.78 หมื่นล้านบาท
นายชลัช กล่าวอีกว่า สำหรับผลกำไรปี 61/62 น่าจะทำได้ใกล้เคียงกับปี 60/61 แม้ว่าปริมาณอ้อยเข้าหีบและราคาน้ำตาลจะลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า แต่การขาดทุนที่ลดลงของธุรกิจน้ำตาลในลาวและกัมพูชาทำให้ภาพรวมผลกำไรออกมาใกล้เคียงกับปีก่อนหน้า