สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยการดำเนินคดีด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่งกับนายอดิศัย โพธารามิก กรณีเป็นตัวการร่วมในการสร้างราคาหุ้นบมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS) ให้ผิดไปจากสภาพปกติของตลาด ซึ่งต้องรับโทษตามมาตรการลงโทษทางแพ่ง โดยเรียกให้ชำระค่าปรับทางแพ่ง 500,000 บาท
คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) มีมติให้สำนักงาน ก.ล.ต. ดำเนินการบังคับใช้กฎหมายกับนายอดิศัย ฐานเป็นตัวการร่วมกับผู้กระทำความผิดจำนวน 4 ราย กรณีสร้างราคาหุ้น JAS ระหว่างวันที่ 13 พฤศจิกายน 2558 ถึงวันที่ 11 มีนาคม 2559 ที่ ค.ม.พ. ได้มีมติให้ ก.ล.ต. ดำเนินการบังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำความผิดไปก่อนหน้านี้ เนื่องจากปรากฏพฤติการณ์ที่นายอดิศัย ร่วมรู้เห็นตกลงกันกับผู้กระทำความผิดรายอื่นในการใช้บัญชีซื้อขายหลักทรัพย์รวม 4 บัญชี ซื้อขายหุ้น JAS ในลักษณะพยุงราคาและทำราคาปิด โดย ค.ม.พ. กำหนดให้นายอดิศัยชำระค่าปรับทางแพ่ง 500,000 บาท
การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามมาตรา 243(1) ประกอบมาตรา 244 และมาตรา 243(2) แห่ง พ.ร.บ. หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ที่ใช้บังคับอยู่ในขณะกระทำความผิด ซึ่งปัจจุบันการกระทำดังกล่าวยังคงเป็นความผิดตามมาตรา 244/3 และมีระวางโทษตามมาตรา 296 มาตรา 296/1 และมาตรา 296/2 แห่ง พ.ร.บ. หลักทรัพย์ ที่แก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ. หลักทรัพย์ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2559 ประกอบมาตรา 83 แห่งประมวลกฎหมายอาญา
ทั้งนี้ หากผู้กระทำความผิดไม่ยินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษทางแพ่งที่ ค.ม.พ. กำหนด ก.ล.ต. จะมีหนังสือขอให้พนักงานอัยการดำเนินการฟ้องเป็นคดีต่อศาลแพ่ง เพื่อขอให้ชำระเงินค่าปรับทางแพ่งตามอัตราสูงสุดที่กฎหมายกำหนด
อนึ่ง การที่ ค.ม.พ. ใช้มาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิด เป็นเหตุให้ผู้กระทำความผิดดังกล่าว เข้าข่ายเป็นผู้มีลักษณะขาดความน่าไว้วางใจในการเป็นกรรมการและผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียนตามประกาศคณะกรรมการ ก.ล.ต. ที่ กจ. 3/2560 เรื่อง การกำหนดลักษณะขาดความน่าไว้วางใจของกรรมการและผู้บริหารของบริษัท ลงวันที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2560 ด้วย ซึ่ง ก.ล.ต. จะพิจารณาเมื่อบุคคลดังกล่าวเข้ามาเป็นกรรมการและผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน