นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ. การบินไทย (THAI) เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมโครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภา (TG MRO) เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.62 มีมติเห็นชอบเอกสารการคัดเลือกเอกชนฉบับปรับปรุง และมอบหมายให้ THAI จัดส่งเอกสารการคัดเลือกให้แก่เอกชนที่สนใจร่วมทุน ซึ่งขณะนี้บริษัทได้จัดส่งเอกสารไปแล้ว ซึ่งหากเอกชนมีข้อสงสัย หรือ มีคำถามเกี่ยวกับเอกสารการคัดเลือก สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ภายในวันที่ 22 ม.ค.63 และกำหนดให้ยื่นข้อเสนอภายในวันที่ 6 มี.ค.63
ทั้งนี้ หลังจากมีการยื่นข้อเสนอจากเอกชนผู้ประสงค์ร่วมทุนแล้ว จะเริ่มเข้าสู่กระบวนการเจรจาต่อรองและหาข้อสรุปเพื่อนำผลการเจรจา ผลการคัดเลือก และร่างสัญญาร่วมทุน เสนอขอความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยการบินไทยคาดว่า การเจรจาต่อรองจะได้ข้อยุติในเดือน พ.ค.63
จากนั้น การบินไทยจะต้องส่งร่างสัญญาร่วมลงทุนให้สำนักงานอัยการสูงสุดตรวจพิจารณา คาดว่าจะได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานอัยการสูงสุดในเดือน มิ.ย.63 และจะเสนให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) เพื่อขอความเห็นชอบจาก กพอ. ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน โดยคาดว่าจะได้รับความเห็นชอบในเดือน ก.ค.63 เพื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในเดือน ส.ค.63 ต่อไป
อนึ่ง บริษัทคาดว่าจะสามารถลงนามในสัญญาร่วมลงทุนกับเอกชนในโครงการดังกล่าวภายในเดือน ส.ค.63 และคาดว่าศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภาจะเปิดดำเนินกิจการได้ประมาณเดือน เม.ย.66
ทั้งนี้ เบื้องต้นโครงการดังกล่าว การบินไทยได้เจรจากับ บริษัท แอร์บัส เอส. เอ. เอส.เป็นบริษัทร่วมทุน โดยโครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภา มีมูลค่าเงินลงทุน 1.1 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นจำนวน 6.33 พันล้านบาทที่ภาครัฐเป็นผู้ลงทุนโครงสร้างอาคาร ส่วนอีก 4.4 พันล้านบาท การบินไทยและแอร์บัสแบ่งฝ่ายละครึ่งลงทุนเครื่องมือ หรือฝ่ายละ 2.2 พันล้านบาท