ตลาดหลักทรัพย์ฯปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,576.11 จุด เพิ่มขึ้น 3.11 จุด (+0.20%) มูลค่าการซื้อขาย 14,106.99 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้เคลื่อนไหวในแดนบวก โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,579.25 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,573.44 จุด
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้น เช่นเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่เล่นในโทนบวกกัน แม้จะมีบางตลาดในภูมิภาคยังปิดทำการอยู่ โดยยังมีความคาดหวังเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ที่จะสามารถลงนามข้อตกลงการค้าเฟสแรกได้หลังช่วงปีใหม่ ทั้งนี้ ตลาดบ้านเราปรับตัวขึ้นได้หลังไม่มีปัจจัยลบเข้ามา และคนกล้าลงทุนมากขึ้นจากที่มีการทำ Window Dressing เข้ามา และยังมีเม็ดเงินจากกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) เหลืออีก 2-3 พันล้านบาท ที่น่าจะเข้ามาในช่วงท้ายปีนี้
ส่วนปัจจัยการเมืองแม้ว่าจะยังต้องติดตามดูอยู่ แต่หากมองเรื่องของร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ก็คงจะผ่านได้ไม่ยาก และในเดือนมกราคมมักจะเป็นเดือนที่ดีอยู่แล้ว โดยวันนี้หุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้าขึ้นนำตลาดฯ หลังจากที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตร(Bond Yield) ของไทยอายุ 10 ปี ลงมาต่ำ จาก 1.7% มาเหลือ 1.5% และกลุ่มค้าปลีกเด้งขึ้นขานรับของขวัญจากรัฐบาลในเรื่องลดค่าครองชีพ
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายณัฐพล กล่าวว่า ตลาดฯยังมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นไปได้ต่อ โดยมีแนวรับ 1,570-1,574 จุด ส่วนแนวต้าน 1,580 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
GPSC มูลค่าการซื้อขาย 863.98 ล้านบาท ปิดที่ 85.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 687.03 ล้านบาท ปิดที่ 74.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
GULF มูลค่าการซื้อขาย 643.24 ล้านบาท ปิดที่ 164.00 บาท ลดลง 0.50 บาท
BAM มูลค่าการซื้อขาย 489.68 ล้านบาท ปิดที่ 18.10 บาท ลดลง 0.10 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 434.28 ล้านบาท ปิดที่ 119.00 บาท ลดลง 0.50 บาท