นายสุรงค์ บูลกุล ประธานคณะกรรมการ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยว่า กทพ.จะเร่งเจรจากับบมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) และบริษัท ทางด่วนกรุงเทพเหนือ จำกัด (NECL) ในต้นเดือนม.ค.63 ถึงแนวทางการยุติข้อพิพาทด้วยการต่อขยายสัญญาโครงการทางด่วน เป็นระยะเวลา 15 ปี 8 เดือน โดยไม่มีการลงทุนก่อสร้างปรับปรุงทางด่วนชั้นที่ 2 (Double Deck) และการก่อสร้างใด ๆ ตามที่กระทรวงคมนาคมได้มีนโยบายมอบหมายให้ กทพ. พิจารณาเฉพาะประเด็นที่เป็นข้อพิพาทที่มีมูลค่าที่ 58,873 ล้านบาท รวมทั้งเงื่อนไขในการช่วยเหลือประชาชนเพิ่มเติม เช่น การยกเว้นค่าผ่านทางวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อสรุปเสนอเข้าสู่คณะกรรมการกำกับฯ ตามมาตรา 43 ตามขั้นตอนพ.ร.บ.ร่วมทุนฯ 2556 และ ส่งร่างสัญญาที่จะแก้ไขให้สำนักงานอัยการสูงสุดตรวจพิจารณา และนำเสนอครม.พิจารณาต่อไป
ส่วนการปรับปรุงทางด่วนชั้นที่ 2 (Double Deck) และการก่อสร้างขยายเส้นทางเพื่อแก้ปัญหาจราจรนั้น ไม่ได้ยกเลิก กระทรวงคมนาคมให้แยกเรื่อง โดยให้กทพ.ศึกษาเพื่อแก้ปัญหาจราจรทั้งระบบ และนำเสนอไปยังกระทรวงคมนาคมอีกครั้ง
นอกจากนี้ กทพ.มีมาตรการลดค่าใช้จ่ายของประชาชน โดยการลดค่าผ่านทางด่วนบัตร Easy Pass ในอัตรา 5% ทุกด่านเป็นเวลา 1 เดือน โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค.63 เป็นต้นไป ซึ่งจะมีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนใช้บัตร Easy Pass มากขึ้น เพราะนอกจากจะลดค่าใช้จ่าย โดยทุก 1,000 บาท จะได้ส่วนลด 50 บาทแล้ว การใช้ Easy Pass สามารถลดเวลารอคิวจ่ายเงิน ในเวลา 3 วินาที/คัน ขณะที่เงินสดใช้เวลา 10 วินาที หรือเร็วกว่าถึง 3 เท่า ซึ่งช่วยประหยัดเวลาและลดภาระของพนักงานเก็บเงิน แล้วยังจะช่วยลดปริมาณฝุ่น PM2.5 อีกด้วย
นอกจากนี้ บอร์ดกทพ.ยังได้อนุมัติโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ ตอน N2 เชื่อมต่อไปยังถนนวงแหวนรอบนอก กทม.ด้านตะวันออก วงเงิน 15,200 ล้านบาท โดยใช้เงินลงทุนจากกองทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (ไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์) หรือ TFF โดยคาดว่าจะเปิดประมูลได้ในปี 63 ทั้งนี้ กทพ.จะดำเนินการทางด่วน N2 ไปพร้อมกับการก่อสร้างฐานรากโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ไปด้วย