ตลาดหลักทรัพย์ฯปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,584.11 จุด ลดลง 10.86 จุด (-0.68%) มูลค่าการซื้อขาย 37,623.45 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดช่วงเช้า โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,585.56 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,579.78 จุด
น.ส.อาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างติดลบกันทั่วหน้า จากความกังวลสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ-อิหร่าน-อิรัก ซึ่งจะต้องรอดูว่าจะมีการตอบโต้ระหว่างกันอย่างไรบ้าง
นอกจากนี้ เผชิญแรงกดดันจากโรคระบาดปอดอักเสบจากเชื้อไวรัส ที่ตอนนี้เริ่มแพร่เข้าไปที่สิงคโปร์แล้ว ซึ่งก็ต้องติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดอย่างใกล้ชิด
สำหรับกลุ่มพลังงานมีหุ้นบางตัวเท่านั้น คือ หุ้น PTTEP ที่ได้รับประโยชน์เต็มที่จากราคาน้ำมันขึ้นหลังเกิดเหตุการณ์ในตะวันออกกลาง แต่ทั้งนี้ราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นจะเป็นลบมากกว่าบวก เพราะเศรษฐกิจโลกไม่ดีอยู่ที่แล้ว สำหรับหุ้นในกลุ่มปิโตรเคมี และกลุ่มโรงกลั่น อาจได้รับผลลบได้ถ้าราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นสูง เพราะเป็นต้นทุน (Cost) ดังนั้นช่วงนี้ก็แนะให้ลดพอร์ตสินทรัพย์เสี่ยงลงในยามที่ความเสี่ยงสูงขึ้น และหันไปถือหุ้น Defensive, หุ้นที่ให้ปันผลดี รวมถึงหุ้นที่มีเสถียรภาพ จะดีกว่า
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ น.ส.อาภาภรณ์ กล่าวว่า ตลาดฯยังไม่ค่อยดี จากปัจจัยกดดันที่ยังมีอยู่ พร้อมให้แนวรับ 1,580 จุด และมี Stop loss ที่ 1,575 จุด หากหลุดมีโอกาสที่จะลงไปทดสอบบริเวณ 1,540-1,530 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,585-1,590 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,636.70 ล้านบาท ปิดที่ 47.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,093.12 ล้านบาท ปิดที่ 133.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,811.41 ล้านบาท ปิดที่ 72.50 บาท ลดลง 1.50 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,742.37 ล้านบาท ปิดที่ 145.50 บาท ลดลง 7.00 บาท
GPSC มูลค่าการซื้อขาย 1,690.61 ล้านบาท ปิดที่ 88.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท