นายสุวิทย์ มิ่งมล รักษาการประธานสหภาพแรงงาน บมจ.อสมท (MCOT) ได้ยื่นหนังสือต่อนายเทวัญ ลิปตพัลลภ รมว.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ถึงแนวทางการดำเนินการให้ อสมท. มีผลประกอบการที่ดีขึ้น แม้ในปัจจุบันบริษัทฯ จะมีผลประกอบการที่ดีขึ้นแล้ว แต่ก็ยังประสบปัญหาขาดทุนอยู่ เช่นเดียวกันสื่ออีกหลายสำนัก ท่ามกลางการคาดหมายว่าในปี 63 ภาวการณ์แข่งขันจะยังรุนแรง สหภาพแรงงานฯ จึงนำเสนอแนวทางดังกล่าว โดยมีรายละเอียดดังนี้
1.การพิจารณากรรมการบริษัท หรือบอร์ดขอให้คำนึงถึงองค์ประกอบที่เหมาะสม เพื่อประโยชน์ในการบริหารโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตำแหน่งประธานกรรมการบริษัทเห็นควรเป็นบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถด้านเศรษฐกิจ เพื่อจะได้กำหนดนโยบาย ควบคุมการบริหารและนำพาให้ อสมท.ต่อสู้ได้ในทางธุรกิจ ซึ่งจะเป็นผลดีต่อทุกฝ่าย ทั้งพนักงาน ผู่ถือหุ้น และรัฐในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่
2.การสรรหากรรมการผู้อำนวยการใหญ่แทนคนปัจจุบันที่จะเกษียณอายุ อยากให้มีกระบวนการดำเนินการแต่เนิ่นๆ และกำหนดคุณสมบัติที่เหมาะสมกับสถานการณ์ของอุตสาหกรรมสื่อในปัจจุบัน
3.เป็นที่ทราบดีว่าแนวโน้มอุตสาหกรรมและเม็ดเงินโฆษณาในวงการสื่อมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง ขณะที่อสมท. มีโครงการพัฒนาที่ดินซึ่งจะเป็นรายได้ใหม่ นอกจากอุตสาหกรรมสื่อ จึงเห็นควรให้มีการเร่งรัดหรืองดเว้นบางขั้นตอน เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการดำเนินโครงการ
4.คลื่น 2600 เมกะเฮิรต์ ที่อสมท.ถือครองอยู่ และกสทช.กำลังจะนำไปประมูล 5G อยากให้มีการพิจารณาภายใต้เงื่อนไขที่เป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย และหากมีช่องว่างที่อาจทำให้รัฐต้องเสียหายก็ควรมีการดำเนินการให้รอบคอบ
5.ปัจจุบัน อสมท.ยังมีคงมีกระทรวงการคลังถือหุ้นใหญ่ มีบอร์ดบริหารที่มาจากรัฐบาลและตามพ.ร.บ. รัฐวิสาหกิจถือว่าเป็นรัฐวิสาหกิจ แก่กฎหมาย กสทช. ซึ่งตราขึ้นภายหลังกับกำหนดให้ อสมท.ต้องอยู่ภายใต้กฎระเบียบเดียวกับเอกชน จึงเห็นสมควรพิจารณาแก้กฎมายให้สอดคล้องกับความเป็นจริงโดยระหว่างรอแก้กฎหมายอาจพิจารณาแนวทางอื่นในการช่วยเหลือ เช่น การประมูลในลักษณะรัฐต่อรัฐ หรือ การสนับสนุนเชิงนโยบายเกี่ยวกับงบโฆษณา และประชาสัมพันธ์ หน่วยงานรัฐ เป็นต้น