กลุ่มเซ็นทรัล ทุ่มงบตลาดกว่า 50 ลบ.ออกแคมเปญช่วงตรุษจีนหวังดันยอดขายโต 12-15%

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday January 7, 2020 17:04 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางณัฐธีรา จิราธิวัฒน์ บุญศรี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด บริษัทย่อยของบมจ.เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น (CRC) เปิดเผยว่า กลุ่มเซ็นทรัลได้ทุ่มงบการตลาดกว่า 50 ล้านบาทในการทำแคมเปญสุดยิ่งใหญ่รับตรุษจีนในชื่อ "Happy Chinese New Year 2020 ต้อนรับปีหนูทอง ฉลองแด่นักช็อป" ตั้งแต่วันที่ 15 ม.ค.- 2 ก.พ. 63 9 ซึ่งร่วมกับ 9 ธุรกิจในอาณาจักรค้าปลีกเซ็นทรัล รีเทล และกลุ่มเซ็นทรัล ประกอบด้วย ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล, ท็อปส์, แฟมิลี่มาร์ท, มัทสึโมโตะ คิโยชิ, ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน, เพาเวอร์บาย, ซูเปอร์สปอร์ต, ซีเอ็มจี และบีทูเอส เพื่อมอบสิทธิพิเศษและกิจกรรมส่งเสริมการขายที่เหนือกว่าให้แก่นักช็อป และเป็นการกระตุ้นการจับจ่ายรับปีหนูทองในเทศกาลตรุษจีน

บริษัทเชื่อว่ากำลังซื้อของผู้บริโภคยังเติบโตไปในทิศทางบวกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลจากมาตรการกระตุ้นการจับจ่ายของภาครัฐ การฟื้นตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และการที่ภาคเอกชนขานรับในการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งคาดว่าในช่วงไตรมาส 1/63 กำลังซื้อยังเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเทศกาลตรุษจีนจะเป็นปัจจัยหนุนหลักในการขับเคลื่อน ซึ่งคาดว่าจะมีเม็ดเงินสะพัดเพิ่มขึ้นในช่วงตรุษจีนปีนี้ราว 10-15% จากปีก่อนที่ 1.3 หมื่นล้านบาท และคาดว่ายอดขายของเซ็นทรัลจะเพิ่มขึ้นในช่วงตรุษจีนนี้ราว 12-15%

ขณะเดียวกันในปีนี้บริษัทยังคงเดินหน้าการพัฒนาแพลตฟอร์ม Omnichannel ที่รวมจุดเด่นที่ดีที่สุดของออนไลน์และออฟไลน์ไว้ด้วยกันอย่างไร้รอยต่อ เชื่อมโยงหน้าร้านกับออนไลน์เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าใน 3 ด้าน ได้แก่ Convenience ความสะดวกสบายที่สามารถซื้อสินค้าได้ทุกที่ทุกเวลาทั่วโลก Quality of Choice การเข้าถึงตัวเลือกสินค้าที่มากกว่าและมั่นใจในคุณภาพและความน่าเชื่อถือของสินค้าและ Superior Omnichannel Service ด้วยบริการหลากหลายเชื่อมโยงทั้งหน้าร้านและออนไลน์ ผ่านบริการ Click & Collect, Click & Delivery, Reserve & Collect บริการรับจองสินค้าทางออนไลน์และสามารถมาดูสินค้าที่หน้าร้านได้ภายในเวลาอันสั้น สามารถรับสินค้าหรือสั่งให้ส่งสินค้าไปยังที่ที่ต้องการ, Chat & Shop, e-Ordering และ Express Delivery บริการส่งของด่วนภายใน 1-2 ชั่วโมง พร้อมด้วยบริการหลังการขายที่มีคุณภาพ

นอกจากนี้ยังมองถึงการพัฒนาบริการต่างๆในห้างสรรพสินค้าให้ตอบสนองกับเทรนด์ของผู้บริโภคในปี 63 ซึ่งผู้บริโภคต้องการสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะบุคคล หรือ Personalization รวมไปถึงการสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างและมีความพิเศษกับสินค้าและบริการ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคในปัจจุบันมีความต้องการ และการทำให้บรรยากาศของร้านค้าทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์มีความแตกต่างมากกว่าที่อื่น เพื่อเป็นการดึงดูดผู้บริโภคให้มีประสบการณ์กับสิ่งใหม่ๆในการช้อปปิ้ง

นางสาวภัทรพร เพ็ญประพัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการตลาด – ประชาสัมพันธ์ และกิจกรรมเพื่อสังคม บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด บริษัทย่อยของ CRC กล่าวว่า ตรุษจีน เป็นเทศกาลที่คนไทยเชื้อสายจีนให้ความสำคัญเป็นอันดับหนึ่ง และสินค้าประเภทอาหารจะมีความเกี่ยวเนื่องในช่วงตรุษจีนเป็นอย่างมาก ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเซ่นไหว้ ทำให้สินค้าอาหารมีการเติบโตที่ค่อนข้างมากในช่วงตรุษจีนของทุกๆปี โดยที่ในส่วนของเซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล คาดว่ายอดขายในช่วงตรุษจีนปีนี้จะเติบโตขึ้น 12-15% โดยที่มองว่าการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง จากการที่บริษัทมีเห็นถึงพฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยของลูกค้าจากฐานข้อมูลของ The 1 ที่มีอยู่ 17 ล้านคนในประเทศ ยังมีการช้อปปิ้งอย่างต่อเนื่อง

ขณะเดียวกันในปี 63 ถือว่าเป็นปีหนูทองที่เวียนมาในรอบ 60 ปี จะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยการซื้อของที่เสริมโคชะตาและเป็นสิริมงคลให้กับชีวิต ทำให้มองว่ากำลังซื้อในช่วงตรุษจีนปีนี้จะเห็นความคึกคักมากขึ้น แม้ว่าเปิดต้นปี 63 มาจะมีปัจจัยลบจากต่างประเทศเข้ามา แต่มองว่ายังไม่กระทบต่อกำลังซื้อในประเทศ และสินค้าประเภทอาหารยังเป็นสินค้าที่ผู้บริโภคซื้ออย่างต่อเนื่อง เพราะจำเป็นต่อการใช้ชีวิตประจำวัน และการที่บริษัทมอบส่วนลดและประสบการณ์ในการเลือกซื้อสินค้าที่หลากหลายเพื่อเสริมความเฮง ฉลองเทศกาลตรุษจีน ครอบคลุมทั้งการเลือกซื้อที่หน้าร้านและออนไลน์ ผ่าน Omnichannel ให้ลูกค้าจับจ่ายซื้อของเซ่นไหว้ และสินค้าต่างๆเสริมสิริมงคล ถือเป็นการช่วยกระตุ้นกำลังซื้อได้มากขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ