GLOBLEX มองหุ้นไทยช่วงนี้แกว่งในกรอบ 1,555-1,580 จุด คาดหุ้นพลังงานช่วยพยุงตลาด แม้มีเหตุตึงเครียดสหรัฐ-อิหร่าน

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday January 8, 2020 11:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ฝ่ายวิจัยบล.โกลเบล็ก (GLOBLEX) ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงตามทิศทางตลาดโลก จากเหตุที่สหรัฐสังหารผู้นำทหารระดับสูงอิหร่านส่งผลให้เกิดความตึงเครียดในภูมิภาคตะวันออกกลาง แต่คาดว่าหุ้นกลุ่มพลังงานจะช่วยพยุงตลาดได้บางส่วน หลังราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นแรงที่อาจจะส่งผลกระทบกับการผลิตน้ำมันในตะวันออกกลาง ปริมาณน้ำมันในตลาดโลก และสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้คาดว่าดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,555-1,580 จุด

สำหรับปัจจัยลบในประเทศที่กดดันตลาดหุ้นไทย อาทิ ภาวะภัยแล้งปีนี้เป็นความเสี่ยงในอนาคตที่จะกดดันการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศไทยในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 รวมทั้งปัจจัยการเมืองในประเทศมีความไม่แน่นอนในเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจ และค่าเงินบาทผันผวนและมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นกดดันการส่งออก

ด้านนางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นไทยในขณะนี้ คือ สถานการณ์ราคาน้ำมันขยับขึ้นจากสถานการณ์ตึงเครียดในภูมิภาคตะวันออกกลางส่งผลบวกเชิงจิตวิทยาหุ้นพลังงาน และการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณประจำปีช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ

อย่างไรก็ตาม แนะนำจับตาการประชุมคณะกรรมการร่วม 3 สถาบันภาคเอกชน (กกร.) ในวันที่ 8 ม.ค. นี้ และในวันที่ 8-10 ม.ค. สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563

ดังนั้น แนะนำกลยุทธ์การลงทุนในหุ้น Defensive Stock หุ้นปลอดภัย ได้แก่ BEM และ PLANB รวมทั้ง หุ้นพลังงานที่ได้รับประโยชน์มากที่สุดจากราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น ได้แก่ PTT และ PTTEP

นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า สำหรับราคาทองคำคาดปีนี้ทองคำเคลื่อนไหวในกรอบ 1,450-1,650 ดอลลาร์/ออนซ์ หรือ 20,550-23,680 บาทต่อบาททองคำ โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากความกังวลเกี่ยวกับสงครามระหว่างสหรัฐและอิหร่าน อีกทั้งเศรษฐกิจโลกที่คาดว่าปี 2563 จะเริ่มชะลอตัวทั้ง สหรัฐ ยูโรโซน อังกฤษ ญี่ปุ่น และจีน ส่งผลให้ความต้องการถือสินทรัพย์เสี่ยงลดลง

อย่างไรก็ตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยจนถึงไตรมาส 3/2563 คาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 1 ครั้งในช่วงไตรมาส 4/2563 ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำ ปัจจัยที่น่าจับตาคือการเลือกตั้งสหรัฐช่วงปลายปี 2563 หากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีต่อไป ก็คาดว่าจะส่งผลบวกต่อราคาทองคำเนื่องจากนโยบาย "อเมริกามาก่อน"


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ