นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) กล่าวถึงสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯกับอิหร่านที่เกิดขึ้นว่า ขอให้นักลงทุนติดตามศึกษาข้อมูลและบทวิเคราะห์ เนื่องจากมองว่ายังเป็นโอกาสในการเข้าลงทุนช่วงวิกฤติ เพราะมีทั้งกลุ่มธุรกิจที่ได้รับผลกระทบและกลุ่มที่ได้รับประโยชน์
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นไทยถือว่ายังมีอัตราผลตอบแทนที่น่าสนใจหากเทียบกับตลาดพันธบัตรรัฐบาล
"วิกฤตสามารถเปลี่ยนเป็นโอกาสได้ แต่ว่ายังคงต้องการใช้การวิเคราะห์และหาหุ้นที่ดีที่จะสามารถเข้าลงทุนได้ ซึ่งปัจจัยภายนอกนั้นจะมีบริษัทจดทะเบียนที่ได้รับผลกระทบบ้าง ไม่ได้รับผลกระทบบ้าง ซึ่งในช่วงที่ราคามีการปรับตัวลงมาก ๆ ก็ถือเป็นโอกาสในการเข้าลงทุนในหุ้นที่ปันผลดี ๆ ได้"นายภากร กล่าว
นายภากร กล่าวอีกว่า ภาพรวมดัชนีตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้ได้รับผลกระทบหลักจากปัจจัยใหม่ที่เข้ามา คือ ความวุ่นวายในตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้ อย่างไรก็ตาม แม้ดัชนีตลาดหุ้นจะปรับตัวลดลงมาก แต่ก็เป็นโอกาสในการเข้าลงทุน เนื่องจากปัจจุบันสภาพคล่องทั่วโลกยังคงอยู่ในระดับสูง ขณะที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ โดยจะเห็นจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยอยู่ที่เพียง 1.3% ถือว่าต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งหากมีการวิเคราะห์เลือกหุ้นที่ให้เงินปันผลดีก็อาจจะทำให้ได้รับอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงถึง 3.7%
สำหรับปีที่ผ่านมาแม้ว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยจะปรับขึ้นมาได้เพียง 1% แต่หากมองผลตอบแทนโดยรวม คือหากรวมกับค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นนั้น นักลงทุนต่างชาติจะได้รับผลตอบแทนสูงถึง 8-9% ขณะที่คาดว่าเงินทุนต่างชาติมีโอกาสที่จะไหลกลับเข้ามายังตลาดหุ้นไทย โดยในช่วงต้นปีนี้สัดส่วนการถือครองหุ้นไทยของต่างชาติปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ราว 30% ใกล้เคียงค่าเฉลี่ย 10 ปี จากในช่วงปลายปีก่อนอยู่ที่ 28-29%