นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ในปี 62 ตลาดหลักทรัพย์ไทยได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกเป็นหลักเช่นเดียวกับตลาดส่วนใหญ่ในอาเซียน โดยดัชนีตลาดหลักทรัพย์ (SET Index) เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับตลาดอาเซียน โดยผู้ลงทุนต่างชาติขายสุทธิด้วยมูลค่าที่ลดลงจากปีก่อน
ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยทำสถิติสูงสุดใหม่ในด้านมูลค่าซื้อขายด้วยมูลค่าซื้อขายต่อวันสูงสุดที่ 2 แสนล้านบาท (ณ วันที่ 28 พ.ค.62) เนื่องจากการปรับเพิ่มน้ำหนักหุ้นไทยใน MSCI และตลอดทั้งปีมีสภาพคล่องสูงที่สุดในภูมิภาค นอกจากนี้ ยังคงเป็นผู้นำในด้านการระดมทุนครั้งแรก (IPO) โดยการเข้าจดทะเบียนของ AWC มีมูลค่าระดมทุนสูงที่สุดในภูมิภาค และสูงสุดเท่าที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์ของตลาดหุ้นไทย
นอกจากนี้ ยังมีการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน (SPO) ด้วยมูลค่ารวม 3.1 แสนล้านบาท มากกว่ามูลค่า IPO เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด ณ สิ้นปี 62 เพิ่มขึ้น 4.8% จากปีก่อน
ตลท.ระบุว่า SET Index ณ สิ้นปี 62 ปิดที่ 1,579.84 จุด เพิ่มขึ้น 1% จากสิ้นปีก่อน โดยกลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร กลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มทรัพยากร และกลุ่มบริการ ให้ผลตอบแทนมากกว่า SET Index ทั้งปี 62 ผู้ลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 44,791 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน มูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันรวมของ SET และ mai อยู่ที่ 53,192 ล้านบาท ลดลง 7% จากปีก่อน
Forward และ Historical P/E ของตลาดหลักทรัพย์ไทย ณ สิ้นปี 62 อยู่ที่ระดับ 16.9 เท่า และ 19.4 เท่าตามลำดับ สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียที่ระดับ 15.2 เท่า และ 16.2 เท่าตามลำดับ
อัตราเงินปันผลตอบแทนอยู่ที่ระดับ 3.3% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ 2.8%
มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมของ SET และ mai ณ สิ้นปี 62 อยู่ที่ 16.7 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.8% จากสิ้นปี 2561 เนื่องจากบริษัทขนาดใหญ่เข้าจดทะเบียน (IPO) และบริษัทจดทะเบียนเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน (SPO)
ในปี 62 มูลค่าการระดมทุนครั้งแรก (IPO) ของไทยอยู่ที่ระดับ 90,839 ล้านบาท ในขณะที่การเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน (SPO) มีมูลค่ารวม 311,133 ล้านบาท
ส่วนภาวะตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าปี 62 ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้ามีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 428,368 สัญญา ซึ่งเพิ่มขึ้น 0.5% จากปีก่อน