CPN เตรียมขยายกองทุนอสังหาฯ กว่าหมื่นลบ.-ตั้งกองทุนสำนักงาน ใน Q2/51

          บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา(CPN)ตัดสินใจจะขยายกองทุนอสังหาริมทรัพย์เดิม(CPNRF)อีกกว่า 1 หมื่นล้านบาทในช่วงไตรมาส 2/51 พร้อมกับการออกกองทุนอสังหาใหม่ที่มีอาคารสำนักงานเซ็นทรัลเวิลด์เป็นสินทรัพย์หลัก หลังจากที่ทางการยกเลิกมาตรการสำรอง 30% ซึ่งน่าจะทำให้กองทุนอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยได้รับความสนใจจากนักลงทุนเพิ่มจึ้น โดยเฉพาะนักลงทุนต่างประเทศ 
          นายนริศ เชยกลิ่น รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายบัญชีและการเงิน CPN กล่าวว่า เดิม CPN มีแผนจะขยายกองทุน CPNRF ในช่วง 7 พันล้านบาท ถึง 1 หมื่นล้านบาท โดยมีแผนจะขายศูนย์การค้าเซ็นทรัลปิ่นเกล้าให้เป็นสินทรัพย์ของกองทุนเพิ่มเติม แต่หากมีการขยายวงเงินกองทุนขึ้นไปอีก อาจจะพิจารณาขายห้างอื่นในเครือให้กับกองทุนเพิ่มเติมอีก คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเดือน เม.ย.นี้ โดยจะเสนอขายหน่วยลงทุนให้กับผู้ถือหุ้นเดิม 50% และนักลงทุนทั่วไป 50%
          เงินที่ CPN ได้จากการขายสินทรัพย์ให้ CPNRF จะนำไปขยายห้างสรรพสินค้าแห่งใหม่ และซื้อศูนย์การค้าที่มีอยู่แล้วในกรุงเทพ รวมทั้งซื้อที่ดิน 3 แปลงใหม่ในต่างจังหวัดเพื่อขยายศูนย์การค้าในเครือเซ็นทรัล
          "กองทุนอสังหาฯ ไหน ๆ ได้ทำแล้ว รัฐยกเลิกมาตรการ 30% ไปแล้ว เราก็ทำให้ใหญ่ไปทีเดียว...และเราจะไปโรดโชว์ตัวบริษัท รวมถึงกองทุนด้วย ทั้งลอนดอนและซานฟรานซิสโกในสัปดาห์หน้า"นายนริศ กล่าว
          ส่วนกองทุนอสังหาริมทรัพย์ที่จะมีอาคารสำนักงานเป็นสินทรัพย์หลักนั้น CPN จะขายอาคารสำนักงานเซ็นทรัลเวิลด์ให้กับกองทุนดังกล่าว คาดว่าจะมีมูลค่ากองทุนมากกว่า 5 พันล้านบาท แต่ไม่เกิน 1 หมื่นล้านบาท โดยน่าจะขายหน่วยลงทุนได้ภายในไตรมาส 2/51 กลุ่มเป้าหมายเป็นคนละกลุ่มกับผู้ถือหน่วย CPNRF 
          นายนริศ กล่าวว่า CPN ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาแผนงานลงทุนในต่างประเทศ ทั้งในจีน เวียดนาม และอินเดีย โดยในส่วนของเวียดนาม ที่ก่อนหน้านี้มีการติดต่อเจรจาซื้อที่ดินไว้นั้น ไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากราคาที่ดินปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็วทั้งในฮานอย และโฮจิมินห์ ส่วนในจีน พิจารณาที่ตั้งใน 2-3 เมืองไว้แล้ว
          ขณะที่ในอินเดีย ได้พิจารณาทั้งในนิวเดลี บังกาลอร์ มุมไบ และ เชนไน ซึ่งคาดว่าใน 2-3 เดือนน่าจะได้ข้อสรุปว่าจะลงทุนหรือไม่ และหากลงทุนจะเข้าไปที่เมืองไหน 
          ลักษณะการเข้าไปลงทุนคงจะเข้าไปร่วมทุนกับนักธุรกิจท้องถิ่น และจับมือไปกับบริษัท ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เงินลงทุนจะทยอยใช้ไป 
          "เท่าที่ดู จีน อินเดีย  น่าสนใจน่าลงทุน แต่ดูแล้วจีนดูดีที่สุด"นายนริศ กล่าว
          ในอนาคตบริษัทยังมีแผนออกกองทุนอสังหาริมทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดต่างประเทศ ซึ่งจะใช้สินทรัพย์ที่ลงทุนในต่างประเทศขายให้กับกองทุนฯ