นายพงศ์ศิริ ศิริธร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บี จิสติกส์ (B) เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในปี 63 บริษัทตั้งเป้าหมายผลการดำเนินงานจะเทิร์นอะราวด์ทั้งในแง่ของรายได้และกำไรสุทธิ โดยคาดว่ารายได้รวมจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% และจะมีกำไรสุทธิเกิดขึ้นในปีนี้ เนื่องจากธุรกิจหลักยังมีอัตราการเติบโตสูง ประกอบกับบริษัทได้ปรับโครงสร้างธุรกิจภายใน ทำให้มีความพร้อมในการแข่งขันและเติบโตอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ บริษัทยังคงให้ความสำคัญกับธุรกิจโลจิสติกส์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศ CLMV ประกอบด้วย ประเทศกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม ซึ่งเป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโตสูง และปัจจุบันธุรกิจโลจิสติกส์ถือเป็นรายได้หลักของบริษัทสัดส่วนกว่า 80% ของรายได้รวม โดยปีนี้จะเน้นการให้บริการโครงการโลจิสติกส์แบบมีสัญญาระยะยาว และกลุ่มธุรกิจด้านอีคอมเมิร์ซ (Contract Logistics & E-commerce Logistics) เพื่อเป็นการสร้างผลตอบแทนให้กับบริษัทอย่างต่อเนื่องในระยะยาว เช่น การขนส่งสินค้าให้กับกลุ่มธุรกิจอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่อย่างกลุ่มลาซาด้า และกลุ่มอาลีบาบา
"ปีนี้ B น่าจะเทิร์นอะราวด์ทั้งรายได้และกำไร เพราะธุรกิจโลจิสติกส์เป็นเทรนด์ธุรกิจที่มาแรงและเติบโตสูง ในการวางยุทธศาสตร์เจาะกลุ่ม CLMV ซึ่งเป็นตลาดที่เชื่อมโยงด้านการซื้อขายระหว่างประเทศและมีอัตราการเติบโตการขนส่งที่เพิ่มขึ้นแม้ภาวะเศรษฐกิจจะชะลอตัวก็ตาม ประกอบกับสองปีที่ผ่านมาบริษัทได้ปรับโครงสร้างธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเริ่มเห็นผลอย่างชัดเจนในปีนี้ และเราก็จะกลับมาดูธุรกิจในกลุ่มว่าธุรกิจใดสร้างผลตอบแทนที่ดี ก็จะให้ความสำคัญต่อไป แต่หากธุรกิจใดที่เป็นภาระก็จะอาจจะเขย่าใหม่อีกครั้ง เพื่อให้บริษัทมีความคล่องตัวและแข็งแกร่งยิ่งขึ้น"นายพงศ์ศิริ กล่าว
นายพงศ์ศิริ กล่าวอีกว่า ปีนี้บริษัทยังได้ขยายขอบข่ายการทำธุรกิจที่ต่อยอดกับธุรกิจหลัก โดยเพิ่มการให้บริการ การเป็นที่ปรึกษาออกแบบก่อสร้างและบริหารจัดการคลังสินค้า ซึ่งจะสามารถรับรู้รายได้ตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป นอกจากนี้ยังมีแผนขยายเครือข่ายธุรกิจผ่านกลุ่มสมาคมผู้รับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ซึ่งทำให้บริษัทเป็นที่รู้จักในวงกว้างทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งสะท้อนถึงความมีมาตรฐานการให้บริการในระดับสากล