นายชายนิด อรรถญาณสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค (PF) เปิดเผยว่า ความคืบหน้าล่าสุดของโครงการ "ยู คิโรโระ" คอนโดมิเนียมในประเทศญี่ปุ่น ปัจจุบันก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมเข้าอยู่ โดยมียอดขายแล้ว 2.5 พันล้านบาท เริ่มโอนกรรมสิทธิ์ตั้งแต่เดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา และรับรู้รายได้เข้ามาในไตรมาส 4/62 จำนวน 1.8 พันล้านบาท ขณะที่คาดว่าในปี 63 จะมียอดโอนอีก 2.2 พันล้านบาทเข้ามาจากโครงการดังกล่าว
ทั้งนี้ โครงการยู คิโรโระ ยังคงได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง และบริษัทยังมีการลงทุนก่อสร้างกระเช้าไฟฟ้าแบบผสมกับสกีลิฟต์สายใหม่ เพื่อให้การเดินทางระหว่างโครงการไปยังส่วนของโรงแรมและลานสกีได้อย่างสะดวก พร้อมกับการเปิดร้านอาหารภายในโครงการเพื่อให้บริการแก่ผู้พักอาศัยด้วย
"ยอดขายที่ดีมาจากกลุ่มลูกค้าที่ต้องการที่พักตากอากาศที่มีรูปแบบเฉพาะในทำเลที่หาได้ยาก มีแนวโน้มที่จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นในอนาคตเป็นการลงทุนที่สร้างผลตอบแทนในระดับที่น่าสนใจ นอกจากลูกค้าต่างชาติ โครงการยังได้รับการตอบรับเกินคาดจากกลุ่มลูกค้าชาวไทย โดยได้รับอานิสงส์ที่เงินบาทแข็งค่าบวกกับความนิยมไปท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นของคนไทยที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งปีที่ผ่านมาเป็นประเทศที่คนไทยไปท่องเที่ยวสูงสุด และมีอัตราการเดินทางกลับไปท่องเที่ยวซ้ำสูงกว่าครึ่ง"นายชายนิด กล่าว
สำหรับความคืบหน้าของโครงการร่วมทุนกับ 3 บริษัทพันธมิตรต่างประเทศ บริษัทเตรียมเปิดตัวโครงการ "เลค เลเจ้นด์ แจ้งวัฒนะ" ร่วมกับ "ฮ่องกงแลนด์" ในเดือน ก.พ. 63 และยังมีแผนเปิดโครงการบ้านเดี่ยวในทำเลบางนา-สุวรรณภูมิอีก 1 โครงการ ในเดือน ต.ค.63 ทั้ง 2 ทำเลมีมูลค่ารวม 1.35 หมื่นล้านบาท
ส่วนความร่วมมือกับ "ซูมิโตโม ฟอร์เรสทรี" ประเทศญี่ปุ่นที่ร่วมกันพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม ไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อมาแล้ว ในปี 63 จะร่วมมือกันพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวเพิ่มเติมในทำเลราชพฤกษ์ตัดใหม่ และความร่วมมือกับ "เซกิซุย เคมิคอล"ประเทศญี่ปุ่น ในปีนี้จะมีการเปิดตัวบ้านนวัตกรรมอากาศบริสุทธิ์ระบบโมดูล่าร์ร่วมกันในโครงการเพอร์เฟค มาสเตอร์พีซ สุขุมวิท 77 เพิ่มเติม โดยจะมีแบบบ้านรุ่นใหม่ล่าสุด ซึ่งมีจุดเด่นอยู่ที่ความหรูหราในสไตล์ยูโรเปี้ยน คลาสสิค และห้องนอนขนาดใหญ่ในรูปแบบเพ้นท์เฮ้าส์
"ในปีนี้บริษัทและบริษัทในกลุ่มยังมีแนวทางที่จะลดภาระหนี้ลงให้เร็วที่สุด โดยรายได้จากคอนโดมิเนียมประเทศญี่ปุ่นที่เป็นไปตามเป้าหมายบวกกับแผนการดำเนินงาน การขายที่ดิน และขายการลงทุนจะช่วยให้บริษัทสามารถลดภาระหนี้ลงได้จำนวนมาก ซึ่งจะส่งผลให้อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุนสุทธิ (Net IBD/E) ลดลงด้วย"นายชายนิด กล่าว