TISCO ยันปรับโครงสร้างไม่ใช่เพื่อรับพันธมิตรตปท.ยอมรับสนใจซื้อแบงก์อื่น

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday March 5, 2008 12:07 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายปลิว มังกรกนก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทิสโก้ (TISCO) ยอมรับ สนใจซื้อธุรกิจธนาคารพาณิชย์ในประเทศหากมีแผนธุรกิจที่สอดคล้องกัน หลังจากที่กลุ่มทิสโก้ได้ปรับโครงสร้างมาอยู่ภายใต้บริษัทโฮลดิ้งเพื่อประสิทธิภาพในการกำกับกิจการแบบรวมกลุ่ม และยืนยันไม่ใช่การปรับเพื่อเปิดรับพันธมิตรต่างชาติเข้ามาถือหุ้น เพราะขณะนี้ไม่เห็นความจำเป็น แต่ในอนาคตขึ้นกับความจำเป็น
"จะว่าเราเดินตามกลุ่มธนชาตก็ได้ แต่ก็เป็นกระแสโลกที่ทั่วโลกต้องวางโครงสร้างของกลุ่มธุรกิจการเงินเป็นแบบนี้หมด ซึ่งการปรับโครงสร้างครั้งนี้ไม่ได้กระทบต่อแผนการทำธุรกิจ รวมถึงสินทรัพย์และเงินกองทุนของธนคารยังเหมือนเดิม เหมือนเอาแผนเก่าเมื่อ 2 ปีที่แล้วมาทำใหม่ เพียงแต่ 2 ปีก่อน ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องอำนาจในการอนุมัติ" นายปลิว กล่าว
TISCO จะจัดตั้งบริษัทโฮลดิ้งและจัดทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ (Tender Offer)หุ้นทั้งหมดของ TISCO ในอัตราส่วนการแลกหุ้นเท่ากับ 1:1 ระยะเวลา 25 วันทำการ ราคาแลกหุ้นคำนวณจากราคาตลาดหุ้นของ TISCO โดยมีเป้าหมายเข้าถือหุ้นไม่ต่ำกว่า 98.5%
นายปลิว กล่าวว่า การปรับโครงสร้างเป็นบริษัทโฮลดิ้งไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อรองรับการหาพันธมิตรทางธุรกิจ เพราะขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็น แต่ทำเพื่อความชัดเจนของแต่ละประเภทของธุรกิจ เมื่อแยกแล้วความชัดเจนใช้เงินทุนชัดเจนขึ้น เกิดความคล่องตัวในการบริหารงาน ส่วนการหาพันธมิตรจะเป็นเรื่องของอนาคต หากถึงระยะที่มีความจำเป็นอาจจะมีการคุยกันอีกครั้งหนึ่ง
ด้านนางอรนุช อภิศักดิ์ศิริกุล กรรมการและรองกรรมการอำนวยการ TISCO คาดว่า ขั้นตอนการปรับโครงสร้างของกลุ่มจะใช้เวลา 6-8 เดือน โดยขั้นตอนการแลกหุ้นจะเกิดในช่วงเดือนก.ย.-ต.ค.51 และคาดว่าบริษัทโฮลดิ้งจะนำหุ้นเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ประมาณเดือนต.ค.51 โดยยังใช้ชื่อย่อ TISCO ประวัติการซื้อขายจะแสดงต่อเนื่อง โดยได้หารือกับทางตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้วว่ามูลค่าทุกอย่างยังเหมือนเดิม
สำหรับความเสี่ยงของการปรับโครงสร้างที่อาจเกิดขึ้น คือจะต้องได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้น, ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.), สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.), ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และคู่สัญญาอื่นๆ ซึ่งได้รับความเห็นชอบหมดแล้ว ยกเว้นกระทรวงการคลัง เพราะกฎหมายกำหนดว่าการถือหุ้นในธนาคารเกิน 5% จะต้องได้รับอนุมัติจากกระทรวงการคลัง ซึ่งที่ผ่านมาอนุญาตเฉพาะธนาคารที่มีปัญหา แต่กฎหมายใหม่อำนาจการอนุมัติจะไปอยู่ที่ธปท.
อีกประเด็น คือ ในเรื่องของผู้ถือหุ้น หากนำหุ้นมาแลกไม่ถึง 75% ก็จะถือว่าการปรับโครงสร้างไม่ประสบความสำเร็จ อย่างไรก็ตาม ผู้ถือหุ้นที่ไม่นำหุ้นมาแลกจะเสียผลประโยชน์เพราะหุ้นจะขาดสภาพคล่องจากการที่ต้องเพิกถอนออกจากตลาดฯ ขณะที่ผลตอบแทนก็จะเปลี่ยนไป เพราะการซื้อขายนอกตลาดไม่มีราคาอ้างอิง แม้จะยังได้รับเงินปันผลเหมือนเดิมแต่ก็จะลดลงเกือบครึ่ง
ทั้งนี้ ปัญหาในการแลกหุ้นจะหมดไปจากการที่กำหนดราคาแลกหุ้น ณ ราคาตลาด ที่สถาบันากรเงินจะเป็นคนกำหนด การแลกหุ้นที่ราคาตลาดจะทำให้ไม่มีส่วนต่างของราคา เมื่อเทียบกับการแลกหุ้น จากราคา Book Value
นายปลิว ยังกล่าวว่า หลังปรับโครงสร้างธุรกิจแล้ว ธนาคารทิสโก้ยังจะเดินแผนทางธุรกิจในปีนี้ไปตามที่กำหนดไว้เดิม โดยในปี 51 ธนาคารตั้งเป้าสินเชื่อขยายตัวในอัตรา 17-20% เนื่องจากมองว่าเศรษฐกิจดีขึ้น โดย 2 เดือนที่ผ่านมา ธนาคารมีอัตราการขยายตัวของสินเชื่อเพิ่มขึ้น 1.4% เทียบกับเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา และเชื่อว่าอัตราการเติบโตจะอยู่ในระดับ 1.4% ต่อเดือนทั้งปี

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ