นายมานิตย์ กุปต้า กรรมการ บมจ.โพลีเพล็กซ์ (ประเทศไทย) หรือ PTL เปิดเผยว่า บริษัทฯเชื่อว่าความสามารถในการทำกำไรและยอดขายในปีนี้(เม.ย.2551-มี.ค.2552)จะปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากความต้องการการใช้แผ่นฟิล์มทั่วโลกที่คาดว่าจะมีการเติบโตขึ้น 8-10% ซึ่งสอดคล้องกับการเติบโตของบริษัทฯ
ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯได้มีการขยายการผลิตเพิ่ม เพื่อรองรับกับความต้องการของผู้บริโภค จากแผ่นฟิล์มธรรมดา ได้ลงทุนผลิตแผ่นฟิล์มที่มีความหลากลายในตัวผลิตภัณฑ์มากขึ้น คือ แผ่นฟิล์มเคลือบอลูมิเนียม(METALLISED) ซึ่งให้มาร์จินที่ดีขึ้น โดยขณะนี้ได้เริ่มทำการลงทุนแล้ว และคาดว่าจะผลิตในเชิงพาณิชย์ได้ในเดือนมิถุนายนปีนี้ จากเม็ดเงินลงทุนโครงการนี้ 6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
นอกจากนี้ จะขยายกำลังการผลิตในแผ่นฟิล์มพลาสติกใส (CPP) ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มลงทุนไปบางส่วนแล้ว โดยบริษัทฯได้วางงบลงทุนไว้ 15 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และคาดว่าแผ่นฟิล์ม CPP นี้จะเริ่มผลิตได้ในงวดปี 2552 ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตเพิ่มอีก 1 หมื่นตัน/ปี
นายมานิตย์ กล่าวอีกว่า สำหรับโรงงานที่ประเทศตุรกี บริษัทฯได้มีการลงทุนไปแล้วตั้งแต่ 2550 ในผลิตภัณฑ์แผ่นฟิล์มชนิดบาง ในวงเงินลงทุน 42 ล้านเหรียญฯ และยังได้ลงทุนขยายกำลังผลิตในแผ่นฟิล์มเคลือบอลูมิเนียมไปแล้ว 3.5 ล้านเหรียญฯ ซึ่งคาดว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวนี้จะสามารถผลิตในเชิงพาณิชย์ได้ตั้งแต่ Q1/51-52
ในช่วงที่ผ่านมาแม้ราคาวัตถุดิบ MEG จะปรับตัวลง แต่เชื่อว่าคงจะไม่ทำให้มาร์จินปรับตัวเพิ่มขึ้นมาก เนื่องจากระยะยาวลูกค้าสามารถขอปรับราคาฟิล์มลงได้
ปัจจุบันบริษัทฯมีสัดส่วนการส่งออก 85% ของยอดขาย และกว่า 60%เป็นการส่งออกด้วยเงินสกุลดอลลาร์ ซึ่งการแข็งค่าของเงินบาทไม่ได้ส่งผลกระทบต่อบริษัทฯมากนัก เพราะบริษัทฯได้มีการทำประกันความเสี่ยงไว้แล้ว
ล่าสุด หุ้น PTL ปิดเทรดช่วงเช้าที่ 7.15 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท(+4.38%)มูลค่าซื้อขาย 24.13 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 6.85 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 7.20 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 6.85 บาท
--อินโฟเควสท์ โดย จริญยา ดำสมาน/พรเพ็ญ/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--