นายประพจน์ พลพิพัฒนพงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ซิงเกิ้ล พอยท์ พาร์ท (ประเทศไทย) หรือ SPPT คาดว่า ในปีนี้บริษัทจะมีอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดดถึงกว่า 60%
"ในส่วน SPPT คาดว่าจะขยายตัว 35% แต่ถ้ารวมรายได้จากธุรกิจของบริษัทลูกทั้ง 2 แห่ง คือ SPMP และ SPEE จะทำให้บริษัทมีอัตราโตแบบก้าวกระโดดถึงกว่า 60%" นายประพจน์ กล่าว
ในส่วนของบริษัท ซิงเกิ้ลพอยท์ เอ็นเนอร์ยี่ แอนด์ เอ็นไวรอนเม้นท์ (SPEE) ที่บริษัทถือหุ้น 49.99% ดำเนินธุรกิจด้านพลังงานทดแทน โดยการจำหน่าย ประกอบ และติดตั้งเครื่องจักรแปรรูปขยะพลาสติกเป้นน้ำมันดิบและจำหน่ายสารเร่งปฎิริยาในการแปรรูปเศษพลาสติกเป็นน้ำมันดิบ คาดว่าในปีนี้จะจำหน่ายเครื่องจักรแปรรูปฯ ได้ 3 เครื่อง โดยเป็นภาครัฐ 2 เครื่อง เอกชน 1 เครื่อง
ทั้งนี้ บริษัทได้เซ็นสัญญาจำหน่ายเครื่องแปรรูปขยะพลาสติกเป็นน้ำมัน 1 เครื่องพร้อมจัดสร้างอาคารสำหรับติดตั้งเครื่องจักร 1 หลัง รวมมูลค่า 40 ล้านบาทกับเทศบาลเมืองระยองและบริษัทได้รับเงินชำระค่ามัดจำเครื่องจักรเรียบร้อยแล้ว โดยมีกำหนดการติดตั้งเครื่องจักรภายในเดือนพ.ค.นี้
นอกจากนี้ บริษัทยังจะมีรายได้อีกส่วนหนึ่งจากการจำหน่ายสารเร่งปฎิกริยา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่กำหนดในสัญญาว่าลูกค้าจะต้องซื้อจากบริษัท
ส่วนบริษัท ซิงเกิ้ล พอยท์ เมดิคอล พาร์ท จำกัด (SPMP) ดำเนินธุรกิจการผลิตชิ้นส่วนพลาสติกสำหรับอุปกรณ์ทางการแพทย์ นายประพจน์ กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทได้เตรียมขบวนการผลิตที่โรงงานนิคมโรจนะ ซึ่งพร้อมจะรองรับคำสั่งซื้อที่คาดว่าจะได้รับในเดือนพฤษภาคม
อนึ่ง SPMP เป็นผู้ผลิตข้อต่อพลาสติกใช้สำหรับเครื่องฟอกไตและกระบอกฉีดยาไร้เข็ม ซึ่งเป็นนวัตกรรมของบริษัทที่จดสิทธิบัตรที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งบริษัทคาดว่าจะได้รับการอนุมัติจากองค์การอาหารและยาประเทศญี่ปุ่นภายในเดือนพฤษภาคม
--อินโฟเควสท์ โดย จริญยา ดำสมาน/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--