นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวขึ้น ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนบวกเล็กน้อย หลังจากที่ตัวเลขเศรษฐกิจจีน และสหรัฐฯออกมาแข็งแกร่ง ทำให้มีความคาดหวังว่าเศรษฐกิจปีนี้จะเติบโตได้ดีกว่าปีที่แล้ว
ส่วนบ้านเราก็ยังมีเรื่องที่รัฐมนตรีคลังจะเสนอแพ็กเกจส่งเสริมการลงทุนเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายในไตรมาส 1/63 และวันนี้ที่ประชุมวุฒิสภา ก็จะมีการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 ซึ่งคาดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร หากผ่านแล้วก็จะทำให้รัฐฯมีเงินใช้จ่าย และเร่งลงทุนโครงการต่าง ๆ ได้
อย่างไรก็ดีให้ติดตามการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 20-21 ม.ค.นี้ และติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการกลุ่มแบงก์ต่อไป พร้อมให้แนวรับ 1,595-1,590 จุด ส่วนแนวต้าน 1,605 ถัดไป 1,615-1,620 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (17 ม.ค.63) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 29,348.10 จุด เพิ่มขึ้น 50.46 จุด (+0.17%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,329.62 จุด เพิ่มขึ้น 12.81 จุด (+0.39%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 9,388.94 จุด เพิ่มขึ้น 31.81 จุด (+0.34%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 39.42 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 6.61 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 112.70 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 17.27 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 10.83 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 0.08 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 0.58 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 4.87 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (17 ม.ค.63) 1,600.48 จุด เพิ่มขึ้น 4.61 จุด (+0.29%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,479.67 ล้านบาท เมื่อวันที่ 17 ม.ค.63
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.พ.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (17 ม.ค.63) ปิดที่ระดับ 58.54 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 2 เซนต์ หรือ 0.03%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (17 ม.ค.) อยู่ที่ -0.05 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 30.40 ตลาดรอติดตามการเมือง-ตัวเลขส่งออกของไทย,ผลประชุม BOJ-ECB สัปดาห์นี้
- 5 เรียลเซคเตอร์ "อสังหาฯ-ค้าปลีก-คอนซูเมอร์-ท่องเที่ยว-รถยนต์" ประเมินสถานการณ์ธุรกิจปี 63 ยังเผชิญปัจจัยลบท้าทายธุรกิจรอบด้าน โจทย์ยาก "เศรษฐกิจโลก-ในประเทศ"ไม่ฟื้น ฉุดกำลังซื้อ บาทแข็ง เร่งกลยุทธ์ ระวังลงทุน คุมค่าใช้จ่าย รุกใช้เอไอดัน "ผลิต-ค้า" เจาะพฤติกรรม ผู้บริโภค
- ค้าปลีกปี 63 ไม่คึกคัก คาด "โตต่ำ" 2.8% เท่าปี 62 ปัจจัยเสี่ยงรอบด้าน กดกำลังซื้อ "ซึม" ไร้เงาศูนย์การค้า ขนาดใหญ่เปิดบริการ "ซีพีเอ็น"มุ่งยกเครื่อง "12 สาขาเก่า" สยามพิวรรธน์ดีเดย์ "เอาท์เล็ต หรู" มี.ค. กระทุ้งรัฐเร่งมาตรการปลุกทัวริสต์ใช้จ่าย
- นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการแก้ปัญหากรณีที่สหรัฐเตรียมตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (จีเอสพี) สินค้าไทยกว่า 500 รายการตั้งแต่เดือน เม.ย. 63 ว่า กรมการค้าต่างประเทศได้ส่งแบบสอบถามไปยังภาคเอกชน ทั้งสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สอบถามสมาชิกโดยเฉพาะผู้ส่งออกสินค้าประเภทใด ที่ได้รับผลกระทบจากกรณีสหรัฐตัดสิทธิจีเอสพี และต้องการให้ภาครัฐช่วยเหลืออย่างไร เพื่อที่จะช่วยเหลือถูกจุด และมีประสิทธิภาพในการบรรเทาผลกระทบมากที่สุด โดยคาดว่าจะได้รับคำตอบในเร็ว ๆ นี้
- คมนาคมฝันดันไทยขึ้นท็อปเท็นโลกด้านการบินภายใน 10 ปี จากปัจจุบันถือว่าเป็นฮับการบินของเอเชียด้วยการบิน 3 พันเที่ยว/วัน หรือปีละกว่า 1 ล้านเที่ยวบิน ระบุแนวโน้มจะยิ่งมากขึ้นเพราะไทยเป็น เป้าหมายของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ขณะที่บินในประเทศก็หนาแน่น โดยภาคใต้สูงสุด
*หุ้นเด่นวันนี้
- RWI-W2 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ ของบมจ.ระยองไวร์ อินดัสตรีส์ (RWI)) เทรดวันนี้วันแรกในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยมีจำนวนหน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิที่เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน 318,151,407 หน่วย ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาท/หน่วย อายุ 2 ปี อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิต่อ 1 หุ้นสามัญใหม่ ที่ราคาใช้สิทธิ 1.50 บาท/หุ้น กำหนดใช้สิทธิครั้งแรกวันที่ 15 มิ.ย.63 และใช้สิทธิครั้งสุดท้ายวันที่ 6 ม.ค.65
- CPF (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 39 บาท ราคาหมูในเวียดนามทำ new high ทะลุ 8 หมื่นดอง/กก.จากโรค ASF จะส่งผลดีต่อกำไร CPF ใน H1/63 ด้านราคาหมูไทยขยับขึ้นต่อเนื่องและน่าจะขึ้นอีกจากภัยแล้งที่ลุกลาม ขณะที่ต้นทุนอาหารสัตว์ยังต่ำและล็อกไว้เพียงพอใช้ถึง H1/63 พร้อมปรับกำไรสุทธิปี 2562 ขึ้น 5% เป็น 1.79 หมื่นล้านบาท +15% Y-Y โดยคาดกำไร Q4/62 +7% Q-Q, +106% Y-Y สดใสทั้งที่เป็น low season ปรับกำไรปี 2563 ขึ้น 19% เป็น 2.03 หมื่นล้านบาท +13% Y-Y โดยปรับราคาเนื้อสัตว์ขึ้นราว 10%
- AP (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า IAA Consensus 8.7 บาท ได้ Sentiment บวกจากข่าวแบงก์ชาติเตรียมประกาศผ่อนคลายเกณฑ์ LTV ให้กับบ้านหลังที่ 2 ซึ่ง AP น่าจะได้ประโยชน์เป็นอันดับต้น ๆ ของกลุ่ม เพราะเน้นโครงการบ้านที่มีราคาขายในระดับต่ำถึงกลาง นอกจากนี้ AP ยังจ่ายปันผลสม่ำเสมอประมาณ 0.33 บาทให้ Dividend yield ประมาณ 4.4%