ดัชนีหุ้นไทยภาคเช้าร่วงกว่า 10 จุด รับแรงขายหุ้นกลุ่มแบงก์กดดัน นำโดยหุ้น SCB ที่ร่วงไปกว่า 10% หลังเผยกำไรไตรมาส 4/62 ออกมาน่าผิดหวังจากการตั้งสำรองฯจำนวนมาก ฉุดให้มีแรงขายกลุ่มแบงก์ขนาดใหญ่ทั้ง BBL และ KBANK ออกมาด้วย รวมถึงมีแรงขายในหุ้นกลุ่มสื่อสาร กดดันภาพรวมการลงทุน
เมื่อเวลา 11.28 น. ดัชนี SET อยู่ที่ 1,590.26 จุด ลดลง 10.22 จุด (-0.64%)
ล่าสุด เมื่อเวลา 11.37 น.ดัชนี SET อยู่ที่ 1,590.13 จุด ลดลง 10.35 จุด (-0.65%)
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงกว่า 10 จุด อ่อนแอกว่าตลาดภูมิภาคเอเชียที่เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ ภายหลังจากที่ตลาดบ้านเราไม่มีปัจจัยบวกเด่นชัดเข้ามา ประกอบกับได้รับแรงกดดันจากหุ้นในกลุ่มแบงก์ที่ปรับตัวลงหนักในเช้านี้หลังจากผลประกอบการของ SCB ออกมาต่ำกว่าคาดมาก
นอกจากนี้ ความหวังเล็ก ๆ จากมาตรการ"ชิม ช็อป ใช้" เฟส 4 ที่คาดว่าจะมีการนำเรื่องเนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาในสัปดาห์นี้ก็ถูกเลื่อนออกไป ส่วนเรื่องข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่ได้มีการลงนามเฟสแรกตลาดฯก็ตอบรับไปแล้ว เช่นเดียวกับการพิจารณางบประมาณปี 63 ที่จะเข้าวุฒิสภาในวันนี้ ตลาดฯก็ตอบรับไปแล้วด้วยเช่นกัน ดังนั้น จึงไร้ปัจจัยใหม่เพิ่มเติม ขณะที่โรคระบาดปอดอักเสบในจีนยังต้องติดตามต่อไปเนื่องจากขณะนี้ยังพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น
พร้อมให้แนวรับ 1,585 จุด ส่วนแนวต้าน 1,595 จุด