นางปรียนาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บี.กริม เพาเวอร์ (BGRIM) เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาซื้อกิจการ (M&A) ธุรกิจผลิตไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศหลายราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโครงการที่เดินเครื่องผลิตเชิงพาณิชย์ (COD) แล้ว โดยคาดว่าจะมีความชัดเจนอย่างน้อย 1 ดีลในช่วงครึ่งแรกปีนี้ ซึ่งก็จะทำให้รายได้ในปีนี้เติบโตได้มากกว่าปกติที่คาดว่าจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% จากปีก่อน ตามกำลังการผลิตใหม่ที่เพิ่มขึ้นตามแผน และการรับรู้รายได้เต็มปีของโครงการที่เริ่ม COD ในปีที่แล้ว
สำหรับดีล M&A ที่อยู่ระหว่างการเจรจา ได้แก่ โครงการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติในประเทศ โครงการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซฯในมาเลเซีย โครงการโซลาร์ในฟิลิปปินส์ โครงการในเกาหลี เวียดนาม เป็นต้น ซึ่งแต่ละโครงการก็น่าจะมีความชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้มั่นใจว่าจะมีกำลังผลิตไฟฟ้าตามเป้าหมาย 5,000 เมกะวัตต์ (MW) ภายในปี 65 จากปัจจุบันที่มีกำลังผลิตที่ COD แล้ว 2,896 เมกะวัตต์
ส่วนโครงการพัฒนาโรงไฟฟ้า 3,000 เมกะวัตต์ โดยใช้ก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) เป็นเชื้อเพลิง และการนำเจ้าและจำหน่าย LNG ในเวียดนามก็ยังเดินหน้าต่อเนื่อง คาดว่าจะมีความชัดเจนมากขึ้นเรื่อย ๆ
นางปรียารถ กล่าวว่า บริษัทคาดว่าจะใช้เงินลงทุนในปีนี้ไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งบริษัทมีศักยภาพเพียงพอ โดยยังมีเงินคงเหลือจากการออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ 8 พันล้านบาทเมื่อปลายปีที่ผ่านมา และแม้จะมีโครงการใหญ่เข้ามาก็เชื่อว่าจะสามารถควบคุมหนี้สินต่อทุน (D/E) ไม่เกิน 2 เท่า
นอกจากนี้บริษัทได้ยื่นขอใบอนุญาตประกอบกิจการจัดหาและค้าส่งก๊าซธรรมชาติ (Shipper) กับคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เพื่อนำเข้า LNG มาใช้ในโรงไฟฟ้าเนื่องจากปัจจุบันราคา LNG ในตลาดค่อนข้างต่ำจึงเป็นโอกาสของผู้ใช้ โดยขณะนี้บริษัทยังไม่ได้เซ็นสัญญาซื้อขายก๊าซฯกับบมจ.ปตท. (PTT) เพื่อใช้ในโครงการโรงไฟฟ้าเอกชนรายเล็ก (SPP) ประเภทพลังความร้อนร่วม (Cogeneration) เพื่อทดแทนโรงไฟฟ้า SPP ที่หมดอายุ (Replacement) และยังไม่ได้เซ็นสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) โดยเบื้องต้นคาดว่าจะเซ็น PPA โครงการดังกล่าวได้ในช่วงเดือนมิ.ย.63
อนึ่ง BGRIM มีแผนก่อสร้างโรงไฟฟ้า SPP ใหม่ จำนวน 7 โครงการ กำลังผลิตรวมสุทธิรวมจำนวน 800 เมกะวัตต์ ซึ่งจะแล้วเสร็จในปี 65 โดยเป็นโรงไฟฟ้า SPP เพื่อทดแทนโรงไฟฟ้า SPP จาก 5 โครงการ กำลังผลิตรวม 565 เมกะวัตต์ ที่จะหมดอายุในปี 65 และโรงไฟฟ้า SPP ใหม่ 2 โครงการที่ย้ายพื้นที่จากจ.ราชบุรี มาเป็นจ.อ่างทอง กำลังการผลิตรวม 240 เมกะวัตต์